เช็คผลตอบแทนการลงทุนหุ้นแต่ละประเทศในช่วง 5 เดือนแรก

มอร์นิ่งสตาร์ เปิดผลตอบแทนการลงทุนหุ้นแต่ละประเทศในช่วง 5 เดือนแรกพบกองทุนกลุ่มหุ้นสหรัฐฯ และกองทุนหุ้นจีน มีผลตอบแทนเฉลี่ยนำมาเป็นอันดับต้น ๆ ที่ระดับ 20% ขณะที่กองทุนหุ้นเวียดนามให้ผลตอบแทนสะสม 5 เดือนแรกสูงถึง 30.1%  

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยผลตอบแทนการลงทุนหุ้นแต่ละประเทศ โดยใช้ Morningstar Country Index ว่า ในช่วง 5เดือนแรกของปีนี้ผลตอบแทนหุ้นต่างประเทศยังปรับตัวขึ้นได้ต่อเนื่อง ทางฝั่งทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือโดยรวมยังให้ผลตอบเป็นบวก ขณะที่ฝั่งเอเชียมีประเทศจีนที่ตั้งแต่ต้นปีถือว่าค่อนข้างทรงตัวและบวกเล็กน้อย ด้านกลุ่มประเทศในอาเซียนมีประเทศไทย สิงคโปร์และเวียดนามที่มีผลตอบแทนเป็นบวก

หากไปดูที่ภาพของผลตอบแทนกองทุนรวมของไทยในปีที่แล้ว จะพบว่ากองทุนกลุ่มหุ้นสหรัฐฯ และกองทุนหุ้นจีน มีผลตอบแทนเฉลี่ยนำมาเป็นอันดับต้น ๆ ที่ระดับ 20% ซึ่งหุ้นสหรัฐฯ ได้รับประเด็นบวกจากหุ้นเทคโนโลยี ขณะเดียวกันประเทศจีนมีการรับมือกับโควิดได้ดี ทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวเร็ว ด้านอินเดียที่เป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดแต่ก็ยังคงสร้างผลตอบแทนได้ดี ทั้งนี้อินเดียมีหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ในตลาดแต่ก็มีหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่เช่นกัน ในขณะที่หุ้นไทยถือว่าแย่กว่าค่อนข้างมาก โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่เฉลี่ยติดลบ 10%

 
สำหรับในปีนี้ ท่ามกลางความกังวลอัตราเงินเฟ้อที่จะสูงขึ้นอันเนื่องมาจากเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น กลุ่มหุ้นสหรัฐฯ มีผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมที่ 10.5% ด้านกองทุนหุ้นจีนเฉลี่ยที่ 3.9% ซึ่งชะลอลงจากปีที่แล้วอย่างชัดเจน เห็นได้จากผลตอบแทนติดลบในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ด้านกองทุนหุ้นอินเดียผลตอบแทนเฉลี่ยสะสม 12.7% ในขณะที่การแพร่ระบาดของโควิดในอินเดียยังน่าเป็นห่วง ซึ่งอาจต้องระมัดระวังตัวเลขทางเศรษฐกิจที่จะสะท้อนภาพจริงในช่วงการระบาดรุนแรง

สำหรับกองทุนหุ้นไทยมีภาพผลตอบแทนตรงข้ามกับปีที่แล้ว โดย 5 เดือนแรกกลุ่มกองทุนหุ้นขนาดใหญ่เฉลี่ยสะสมที่ 11.7% ในขณะที่หุ้นขนาดกลาง-เล็กสูงถึง 20.9% ทั้งนี้พบว่ากองทุนหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่มีผลตอบแทนสูงมีการลงทุนในหลักทรัพย์หมวดเทคโนโลยีและสินค้าอุตสาหกรรมในสัดส่วนที่มากกว่า 

 
ด้านกองทุนหุ้นเวียดนามที่ได้รับการพูดถึงกันค่อนข้างบ่อยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว ถือว่าเป็นตลาดที่สร้างผลตอบแทนได้สูงมากตลาดหนึ่งในช่วงที่ผ่านมา จากการควบคุมการแพร่ระบาดได้รวดเร็ว ทำให้เป็นที่จับตามองว่าเวียดนามมีศักยภาพการเติบโตสูง ทั้งนี้หุ้นที่ขับเคลื่อนตลาดมีทั้งธนาคาร สินค้าอุปโภคบริโภค ค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ โดยในปีที่แล้วกองทุนหุ้นเวียดนามมีผลตอบแทนแฉลี่ย 15.9% และสะสม 5 เดือนแรก 30.1%

 
การลงทุนกองทุนต่างประเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ในแต่ละตลาดก็มีปัจจัยที่ต้องพิจารณาแตกต่างกัน เช่นจีนและสหรัฐฯ อาจต้องจับตาความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศ รวมทั้งการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหลังจากนี้ นักลงทุนควรให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตการลงทุนตามสัดส่วนที่เหมาะสม และคำนึงถึงมูลค่าการลงทุนมากกว่าทิศทางตลาดที่อาจไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจทั้งหมด