รีเซต

ด.ต.ฉาว ข่มขืนสาวเมียนมาในโรงพัก ยื่น 4 แสนประตัวแล้ว ผู้การฯสุราษฎร์ให้ออกจากราชการ-ฟันวินัยร้ายแรง

ด.ต.ฉาว ข่มขืนสาวเมียนมาในโรงพัก ยื่น 4 แสนประตัวแล้ว ผู้การฯสุราษฎร์ให้ออกจากราชการ-ฟันวินัยร้ายแรง
มติชน
15 มกราคม 2564 ( 14:51 )
324
ด.ต.ฉาว ข่มขืนสาวเมียนมาในโรงพัก ยื่น 4 แสนประตัวแล้ว ผู้การฯสุราษฎร์ให้ออกจากราชการ-ฟันวินัยร้ายแรง

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 15 มกราคม พล.ต.ต.สาธิต พลพินิจ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เดินทางมาที่ สภ.บ่อผุด ด้วยเฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และร่วมประชุมรับฟังรายงาน จากเหตุเมื่อคืนวันที่ 13 มกราคม 2564 เวลา 01.42 น. ที่ ด.ต.วัชรินทร์ สินสโมสร ผบ.หมู่งานสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่สิบเวรประจำ สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก่อเหตุข่มขืน น.ส.โม (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องขังต่างด้าวรอผลักดัน ซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่ห้องควบคุมของ สภ.บ่อผุด

 

โดยดาบตำรวจคนดังกล่าวได้นำตัว น.ส.โม ออกจากห้องควบคุม แล้วพาไปที่ห้องทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายจราจร ก่อนจะบังคับข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง จากนั้นเวลา 02.19 น. ด.ต.วัชรินทร์ ได้นำตัว น.ส.โม ไปควบคุมไว้ตามเดิม

 

ล่าสุด พล.ต.ต.สาธิต มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่ 14/64 ลงวันที่ 14 มกราคม 2564 ให้ ด.ต.วัชรินทร์ สินสโมสร ผบ.หมู่งานสืบสวน ทำหน้าที่สิบเวร สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย ออกจากราชการไว้ก่อน และได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง โดยมี พ.ต.อ.ไพศาล สังข์เทพ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เป็นหัวหน้า เข้าสอบสวนวินัยโดยให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน

 

และมีรายงานอีกว่า เมื่อช่วงเย็นวานนี้ ด.ต.วัชรินทร์ สินสโมสร ผบ.หมู่งานสืบสวน ผู้ต้องหา ได้ยื่นหลักทรัพย์จำนวนเงิน 400,000 บาท ประกันตัวในชั้นฝากขังต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวดังกล่าว

 

 

พล.ต.ต.สาธิตกล่าวว่า จากเหตุดังกล่าวได้แบ่งการดำเนินการออกเป็น 2 ส่วน คือในส่วนของคดีความผิดเกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องตรวจพิสูจน์สอบปากคำพยาน การตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกๆ ฝ่าย และส่วนของทางคดีวินัย ซึ่งเมื่อวานได้ออกคำสั่งให้ดาบตำรวจคนดังกล่าวออกจากราชการไปแล้ว เพื่อความสะดวกในการดำเนินดีทั้งอาญาและวินัย และตั้งกรรมการดำเนินการวินัยร้ายแรง

 

พล.ต.ต.สาธิตกล่าวอีกว่า ในความผิดดังกล่าวได้ส่งกระทบต่อภาพพจน์และภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างยิ่ง ถ้าใครทำผิดจริง เราต้องดำเนินการอย่างเฉียบขาด รวดเร็ว และคืนความชอบธรรมให้กับคนที่ถูกกระทำ หลังจากนี้การป้องกันต้องมีความเข้มข้นขึ้น ซึ่งผู้บังคับบัญชาระดับสูงได้สั่งการลงมาด้วยในเรื่องการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในเรื่องของความประพฤติ เรื่องประวัติ และเรื่องความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นดังกล่าว

 

“สำหรับหญิงสาวชาวเมียนมาผู้เสียหาย ยังต้องถูกกักตัวอยู่ สภ.บ่อผุด เพื่อรอส่งตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อผลักดันออกนอกประเทศ แต่ระหว่างนี้จะให้การดูแลเป็นพิเศษ และให้ญาติหรือคนรู้จักไปอยู่เฝ้าเป็นเพื่อน นอกจากนี้ ได้รายงานไปยังสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทยแล้วตั้งแต่วันแรกที่เกิดเหตุ” พล.ต.ต.สาธิตกล่าว

 

ด้าน นายสุธีรวัชร์ เจริญวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สั่งการให้สำนักงานยุติธรรมอำเภอเกาะสมุยเข้าพบหญิงสาวผู้เสียหายสัญชาติเมียนมาที่ถูกสิบเวร สภ.บ่อผุด ข่มขืน เพื่อรวบรวมถามรายละเอียด พร้อมกับแจ้งสิทธิเพื่อรับการเยียวยา เนื่องจากเป็นเป็นผู้เสียหายตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 เพื่อยื่นคำร้องขอรับเงินช่วยเหลือในการเยียวยามายังสำนักงานยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้คณะอนุกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหายจังหวัดสุราษฎร์ธานี พิจารณาค่าตอบแทนเพื่อบรรเทาความเสียหายให้หญิงสาวเมียนมารายนี้ต่อไป

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง