รีเซต

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (27 ก.พ.2565)

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (27 ก.พ.2565)
Ingonn
27 กุมภาพันธ์ 2565 ( 16:08 )
393
เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (27 ก.พ.2565)

ข่าววันนี้ 27 กุมภาพันธ์ 2565 ความเสียหายที่เกิดขึ้นในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน นับแต่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน ชาวกรุงเคียฟอพยพต้องเข้าไปอยู่ในบังเกอร์ชั้นใต้ดินในโบสถ์ เพื่อหลบการโจมตีจากการปะทะของทั้ง 2 ฝั่ง ล่าสุดทหารรัสเซียบุกเข้ามาถึงเขตโอโบลอนของกรุงเคียฟ ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเคียฟเพียงไม่ถึง 9 กิโลเมตรแล้ว และยึดครองสนามบินฮอสโตเมล ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกรุงเคียฟกลับมาได้อีกครั้ง อ่านต่อ เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (26 ก.พ.2565)

 

เกาะติดสถานการณ์ 'รัสเซีย-ยูเครน' (27 ก.พ.2565)

 

กองทัพรัสเซียรุกคืบ "คาร์คีฟ" เมืองใหญ่อันดับ 2 มีรายงานการต่อสู้

สำนักข่าว BBC รายงานว่า กองทัพยูเครนเคลื่อนเข้าไปในเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 ของยูเครนแล้ว ตอนนี้ เกิดการต่อสู้กับกองกำลังยูเครนบนท้องถนน


ภาพที่ปรากฏในสังคมออนไลน์ แสดงให้เห็นยานยนต์หุ้มเกราะและรถทหารของรัสเซียเข้ามาในเมือง คาร์คีฟ เป็นเมืองที่อยู่ห่างจากพรมแดนติดกับรัสเซียเพียง 30 กิโลเมตร มีประชากรราว 1.5 ล้านคน


ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศยูเครนระบุว่า กองทัพอากาศยูเครนประสบความสำเร็จยิงสกัดขีปนาวุธที่พุ่งเป้ามาทางกรุงเคียฟ โดยเป็นขีปนาวุธที่ยิงจากเครื่องบินที่บินมาจากเบลารุส ซึ่งเป็นชาติพันธมิตรของรัสเซีย 


สำนักข่าว BBC ยังรายงานถึงการโจมตีทางอากาศพุ่งเป้าไปที่หลายเมืองในยูเครน ไม่เพียงเท่านั้น กองทัพรัสเซียได้ปิดกั้นเส้นทางเข้าเมืองเคอร์สัน และเบอร์ดียันสค์ พร้อมยิงขีปนาวุธโจมตีโครงสร้างทางทหารของยูเครน


ส่วนที่กรุงเคียฟ มีรายงานว่า เกิดเสียงปืนดังต่อเนื่องในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุง พร้อมรายงานว่า ยานยนต์หุ้มเกราะของรัสเซีย และทหารรัสเซีย ได้เข้ามาบนท้องถนน อย่างไรก็ดี BBC ยังไม่ยืนยันรายงานดังกล่าว 

 

ข้อมูล : TNN World

 

รัสเซีย ส่งตัวแทนเจรจายูเครน ที่เบลารุส

สำนักข่าวเอพีรายงานในวันเดียวกันด้วยว่า นายดิมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เปิดเผยว่ารัฐบาลรัสเซียส่งตัวแทนเจรจาไปยังเมืองกอเมล ประเทศเบลารุส เพื่อร่วมการเจรจากับเจ้าหน้าที่ประเทศยูเครนแล้ว โดยตัวแทนของรัสเซียประกอบไปด้วยเจ้าหน้าที่ทหารจากกระทรวงกลาโหม กระทรวงต่างประเทศ และทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย โดยนายเปสคอฟ ระบุว่า ตัวแทนรัสเซียเพร้อมที่จะเจรจาและเวลานี้กำลังรอตัวแทนจากยูเครนอยู่

 

ทั้งนี้ล่าสุดยังไม่มีรายงานความเห็นของเจ้าหน้าที่ทางการยูเครน รวมไปถึงประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนที่เคยระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่ายูเครนพร้อมที่จะเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย อย่างไรก็ตามไม่ได้ระบุถึงรายละเอียด สถานที่หรือช่วงเวลาของการเจรจา

 

ข้อมูล : มติชน

 

'ยูเอ็นเอชซีอาร์' เผยชาวยูเครน อพยพแล้วกว่า 150,000 คน

นายฟิลิปโป กรานดิ ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอชซีอาร์) ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ระบุว่า เวลานี้มีประชาชนที่ต้องหนีภัยความรุนแรงจากการบุกโจมตีของรัสเซียในยูเครนแล้วจำนวนมากกว่า 150,000 ราย

 

โดยนายกรานดิ ระบุว่า มีผู้อพยพชาวยูเครนมากกว่า 150,000 คนที่เวลานี้หนีข้ามชายแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งหนีข้ามแดนไปยังประเทศโปแลนด์ และอีกจำนวนมากหนีไปยังฮังการี มอลโดวา โรมาเนีย และอีกหลายประเทศ นอกจากนี้นายกรานดิ ระบุด้วยว่า การอพยพออกจากบ้านเรือนในยูเครนกำลังเพื่อจำนวนขึ้นเรื่อยๆ แต่สถานการณ์การสู้รบทำให้ยากต่อการคาดการณ์จำนวนผู้ได้รับผลกระทบรวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือ

 

ข้อมูล : มติชน

 

ยูเครนเผย ปืนใหญ่ถล่มอาคารในคาร์คีฟ ดับ 1 ศพ เด็ก 6 ขวบโดนสังหารที่เคียฟ

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นอ้างสำนักงานบริการฉุกเฉินของยูเครนอ้างว่า อาคารที่พักอาศัย 9 ชั้นในเมืองคาร์คีฟ ทางตะวันออกของประเทศ ถูกปืนใหญ่ของฝ่ายศัตรู ยิงถล่มเมื่อกลางดึกคืนวันเสาร์(26 ก.พ.)ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้หญิงเสียชีวิต 1 ราย ขณะที่ตัวอาคารที่ถูกยิงถล่มดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้การช่วยเหลือประชาชนราว 80 คนออกมาที่ส่วนใหญ่พากันหลบภัยอยู่ชั้นใต้ดิน

 

ขณะมีการยิงปืนถล่มในพื้นที่ตะวันตกของกรุงเคียฟอย่างหนักในช่วงเย็นวันเดียวกัน เป็นผลให้มีเด็กชายวัย 6 ขวบเสียชีวิต และทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บหลายราย

 

ข้อมูล : มติชน

 

รัสเซียสั่งปิดน่านฟ้า ห้ามเครื่องบินโปแลนด์ เช็ก และบัลแกเรียตอบโต้ 3 ชาติ ห้ามเครื่องบินรัสเซีย

Russia-Ukraine War: ทางการรัสเซียปิดน่านฟ้า ห้ามเครื่องบินของสายการบินในโปแลนด์  สาธารณรัฐเช็ก และบัลแกเรียบินผ่าน เพื่อตอบโต้ที่ 3 ชาติดังกล่าวห้ามสายการบินรัสเซียเข้าน่านฟ้าก่อน   


รัฐบาลรัสเซียปิดน่านฟ้า ไม่ต้อนรับเครื่องบินโดยสารของสายการบินที่เป็นของบริษัทในโปแลนด์, สาธารณรัฐเช็ก และบัลแกเรีย หลังจาก 3 ประเทศดังกล่าว ห้ามเครื่องบินโดยสารของรัสเซียบินผ่าน โดยอ้างความขัดแย้งในยูเครน    


การปิดน่านฟ้าห้ามสายการบินของ 3 ชาติเข้ามาของรัสเซีย มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 21นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่นของวันเสาร์ (26 กุมภาพันธ์) ในกรุงมอสโก และเป็นการตัดสินใจที่ไม่เป็นมิตรของโปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก และบัลแกเรีย 


ส่วนเอสโตเนีย ลัตเวีย ลิธัวเนีย และโรมาเนีย  ประกาศว่า ยังคงเปิดน่านฟ้าให้เครื่องบินรัสเซียบินผ่านได้ตามปกติ ทำให้ไม่ถูกตอบโต้จากรัสเซีย 


ทั้งนี้ หลายประเทศปิดน่านฟ้าไม่ต้อนรับเครื่องบินรัสเซีย เพื่อแสดงความเป็นเอกภาพร่วมกับยูเครน เช่นเดียวกับสหราชอาณาจักร ห้ามสายการบินแอโรฟลอต  


สายการบินแห่งชาติรัสเซียบินเข้าประเทศตั้งแต่วันศุกร์ (25 กุมภาพันธ์) และต่อมาประกาศห้ามเครื่องบินส่วนตัวของรัสเซียเข้ามา ทำให้รัสเซียตอบโต้ ด้วยการห้ามสายการบินของสหราชอาณาจักรเข้าประเทศ


รัสเซียปฏิบัติการโจมตียูเครนเมื่อเช้าตรู่วันพฤหัสบดี โดยอ้างถึงความจำเป็นในการคุ้มครองประชาชนในสาธารณรัฐโดเนตสค์ และสาธารณรัฐลูฮันสค์ ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครน

 

ข้อมูล : TNN World

 

ชาติตะวันตกระดมส่งอาวุธช่วยยูเครนโต้กลับรัสเซีย

ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบในยูเครนที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ โดยรัสเซียได้เร่งบุกเข้าไปยังกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนอย่างต่อเนื่อง ทำให้หลายชาติตะวันตกประกาศให้การสนับสนุนยูเครนด้วยการส่งอาวุธยุทธภัณฑ์เพื่อนำไปใช้ตอบโต้การรุกคืบของกองทัพรัสเซีย

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกาประกาศว่าจะส่งอาวุธมูลค่ารวม 350 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งรวมถึงขีปนาวุธจาเวลินต่อต้านรถถัง ระบบต่อต้านอากาศยาน รวมถึงเสื้อเกราะเกราะให้กับยูเครน

ด้านรัฐบาลเยอรมนีประกาศว่าจะส่งเครื่องยิงระเบิดต่อต้านรถถัง 1,000 ชุด และขีปนาวุธสติงเกอร์จากภาคพื้นดินสู่อากาศ 500 ชุด เพื่อเป็นความช่วยเหลือเร่งด่วน

รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศส่งอาวุธต่อต้านรถถังแพนเซอเฟาท์-3 จำนวน 50 ชุด และจรวดอีก 400 ลูก

ขณะเดียวกันยังมีการประกาศว่าจะพิจารณาส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออตส์เข้าไปยังพื้นที่ของสโลวาเกีย

หลังจากที่ก่อนหน้านี้กองกำลังสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ประกาศส่งทหารเข้าไปยังพื้นที่ในยุโรปตะวันออกเพื่อเป็นการตอบสนองอย่างเร่งด่วนอีกด้วย

 

ข้อมูล : มติชน

 

ทัพรัสเซียอยู่ห่างใจกลางเคียฟไม่ถึง 9 กม. คาดบุกถล่มใน 30-60 นาทีข้างหน้า

สื่อต่างประเทศรายงานสถานการณ์บนภาคพื้นดินของการรุกคืบโดยกองทัพรัสเซียในยูเครนว่า ทหารรัสเซียบุกเข้ามาถึงเขตโอโบลอนของกรุงเคียฟ ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงเคียฟเพียงไม่ถึง 9 กิโลเมตรแล้ว

 

ขณะที่มีรายงานด้วยว่ากองทัพรัสเซียสามารถยึดครองสนามบินฮอสโตเมล ซึ่งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของกรุงเคียฟกลับมาได้อีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ได้ทำการยึดครองไปแล้วเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้านี้

 

รายงานข่าวระบุว่าเกิดการโจมตีขึ้นในกรุงเคียฟเมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่รัฐบาลยูเครนยังคงสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ และได้ประกาศมาตรการเคอร์ฟิวในกรุงเคียฟยาวไปจนถึงเช้าวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์

 

ขณะนี้รัสเซียสามารถควบคุมพื้นที่ทั้งหมดในบางส่วนของดินแดนยูเครนเอาไว้ได้แล้ว โดยกองทัพรัสเซียได้กระจายกำลังกันไปในพื้นที่ทางตอนเหนือ ใต้ และตะวันออกของยูเครน โดยมีการใช้การโจมตีด้วยจรวดและปืนใหญ่เพื่อเปิดทางสำหรับการรุกคืบของกองทัพรัสเซีย

 

ด้านประเทศต่างๆ ก็ได้ประกาศปิดน่านฟ้าไม่ให้เครื่องบินของรัสเซียบินผ่านมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับยูเครน

 

ล่าสุดเลเซีย วาซีเลนโก ส.ส.ยูเครน ทวีตว่า เคียฟจะตกอยู่ภายใต้การโจมตีชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนใน 30-60 นาทีข้างหน้า รัสเซียจะโจมตีเราด้วยทุกสิ่งที่มี ตลาดเบสซาราบาจะเป็นเป้าหมายหลัก

 

ขณะที่เสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศที่ดังขึ้นท่ามกลางความมืดมิดในกรุงเคียฟ ทำให้ผู้คนและชาวบ้านต้องพากันเข้าไปหลบอยู่ในที่หลบภัย และเฝ้ารอการโจมตีทางรัสเซียด้วยความหวั่นวิตก

 

ข้อมูล : มติชน

 

เคียฟเคอร์ฟิวยันเช้าวันจันทร์ ชี้ใครโผล่บนถนนเป็นผู้ก่อวินาศกรรม

สถานการณ์ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนยังคงวิกฤต ล่าสุดเสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศดังขึ้นก่อนเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นในกรุงเคียฟ เพื่อเป็นการเตือนภัยถึงการโจมตีโดยขีปนาวุธจากรัสเซีย ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นตามมาในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

 

นายวิตาลี คลิทช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟประกาศบังคับใช้มาตรการเคอร์ฟิวในเคียฟ โดยให้มีผลตั้งแต่ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 26 กุมภาพันธ์จนถึงเช้าวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พร้อมกับระบุว่าใครก็ตามที่ถูกพบตัวบนท้องถนนจะถูกพิจารณาว่าเป็นผู้ก่อวินาศกรรมจากรัสเซีย

 

ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวในกรุงเคียฟ ประชาชนจำนวนมากพากันหลั่งไหลหาทางเดินทางออกนอกเมืองหลวงของยูเครน โดยในสถานีรถไฟหลักทั่วเมืองมีผู้คนหลายร้อยคนไปอออยู่ แม้จะแทบไม่มีความหวังว่าจะสามารถเดินทางออกไปได้

 

แม้แต่ผู้ที่มีรถก็ยังคงไม่สามารถเดินทางออกจากเคียฟเพราปั้มน้ำมันเกือบทั้งหมดปิดให้บริการ ขณะที่รถไฟใต้ดินและรถบัสก็ยุติการให้บริการเช่นกัน ทำให้ผู้คนต้องเดินกันเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานีรถไฟ เมื่อไซเรนดังขึ้นพวกเขาก็พากันเข้าไปหลบตามชั้นใต้ดินของอาคารหรือหลุมหลบภัย

 

การรถไฟยูเครนได้จัดรถไฟเที่ยวพิเศษอพยพเพื่อพาผู้คนหลบออกไปทางทิศตะวันตกของประเทศ และหากมีใครที่ลงมาจากรถไฟก็จะมีผู้คนจำนวนมากที่พากันเข้าไปออเพื่อยื้อแย่งกันขึ้นไปบนรถไฟแทน ขณะที่ผู้ที่ไม่สามารถขึ้นรถไฟก่อนมาตรการเคอร์ฟิวจะมีผลบังคับใช้ในเวลา 17.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก็จะค้างคืนที่สถานีรถไฟท่ามกลางความเป็นไปได้ของการโจมตีซ้ำโดยรัสเซีย

 

ล่าสุดมีรายงานว่าชาวยูเครนได้หลบหนีภัยสู้รบออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านหลายแสนคนแล้ว และยังคงทยอยเดินทางออกไปอย่างต่อเนื่อง โดยสหประชาชาติประเมินว่าน่าจะมีชาวยูเครนอพยพออกนอกประเทศถึงกว่า 5 ล้านคน

 

ข้อมูล : มติชน

 

เจ้าชายวิลเลียม-เคท ส่งเสียงหนุนปธน.เซเลนสกี พร้อมประกาศยืนข้างชาวยูเครน

เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ พร้อมพระชายา เคท ดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ ทรงทวีตข้อความแสดงความสนับสนุนประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน พร้อมประกาศทรงยืนเคียงข้างประธานาธิบดีเซเลนสกีและประชาชนชาวยูเครน ที่กำลังเผชิญการทำสงครามรุกรานจากรัสเซีย

 

“ตุลาคมปี 2020 เราได้มีโอกาสพบกับประธานาธิบดีเซเลนสกีและสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งเพื่อเรียนรู้ความหวังและการมองโลกในแง่ดีของพวกเขาสำหรับอนาคตของยูเครน วันนี้เราขอยืนข้างประธานาธิบดีและประชาชนชาวยูเครนทุกคน ขณะที่พวกเขาต่อสู้อย่างกล้าหาญเพื่ออนาคตนั้น” ทวีตข้อความของดยุคและดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ระบุ

 

ข้อมูล : มติชน

 

ชาวรัสเซียทั่วโลกเผาพาสปอร์ต แสดงจุดยืนต้านผู้นำประเทศ

หลังจากรัสเซียตัดสินใจบุกเข้าโจมตีรัสเซีย เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ประชาชนทั่วโลกซึ่งรวมถึงชาวรัสเซียที่ไม่เห็นด้วยกับการกระทำของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ออกมาประท้วงกันอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ล่าสุดมีภาพการเผาหนังสือเดินทางรัสเซียเพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าต่อต้านการกระทำที่โหดร้ายของปูติน

 

ข้อมูล : มติชน

 

 

 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก

 

กดเลย >> community แห่งความบันเทิง

ทั้งข่าว หนัง ซีรีส์ ละคร ดนตรี และศิลปินไอดอล ที่คุณชื่นชอบ บนแอปทรูไอดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง