กะเหลี่ยงบางกรอย ขอทำไร่หมุนเวียน ครอบครัวละ 150 ไร่ต่อปี
ชาวกะเหลี่ยงบางกรอย ยืนยันมีสิทธิในที่ทำกินดั่งเดิม ขอเนื้อที่ทำไร่หมุนเวียนครอบครัวละ 150 ไร่ เจ้าหน้าที่พบมีชาวบ้านเดินทางขึ้นไปมากขึ้น
เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2564 ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายนิรันดร์ ผู้ใหญ่บ้านบางกลอย นายพนัชกร โพธิบัณฑิต ผอ.ส่วนป้องกันและปราบปรามกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้นั่งเฮลิคอปเตอร์เข้าไปพูดคุยกับกลุ่มชาวกะเหลี่ยง นำโดยนายนอแอ๊ะ มีมิ ลูกชาย ปู่คออี้ มีนิ
- อ่าน กะเหรี่ยงบางกลอย จี้ วราวุธ เคารพข้อตกลง หลังส่งจนท.จับชาวบ้าน ทำผวาหนัก
- อ่าน บุกจับชาวบ้าน! เผยภาพ ทหาร-อุทยานฯ อาวุธครบ ลุยจับ กะเหรี่ยงบางกลอย อ้างรุกป่า
- อ่าน หวั่นรุนแรงซ้ำรอย กะเหรี่ยงบางกลอย แฉ จนท.อุทยาน บุกกดดัน ยิงปืนขู่-ปิดหมู่บ้าน
จากการพูดคุยในวันนี้ ชาวบ้านที่ขึ้นไปต่างยืนยันว่าพวกตนมีสิทธิ์ที่จะกลับขึ้นไปทำกินบนพื้นที่เดิมของบรรพบุรุษ และการทำกินก็อยู่ในไร่เลื่อนลอยเดิมไม่ใช่การเปิดป่าใหม่ และนอกจากนั้นยังเสนอเงื่อนไขว่าชาวบ้านทั้ง 36 ครอบครัว ต้องการทำไร่หมุนเวียน ครอบครัวละประมาณ 150 ไร่ต่อปี
และหมุนเวียนกลับมาทำกินพื้นที่เดิมได้ ส่วนแปลงไร่หมุนเวียนอยู่จุดไหนบ้าง ขอให้เจ้าหน้าที่มารังวัดแนวเขตพื้นที่ทำกินให้ แต่ด้านเจ้าหน้าที่แย้งว่าหากทำตามความต้องการจะใช้พื้นที่สำหรับการทำไร่หมุนเวียนบนป่าแก่งกระจานมากกว่า 5,400 ไร่ ซึ่งไม่สามารถที่จะทำได้
เพราะถ้าหากทำได้ชาวบ้านคนอื่นก็จะเรียกร้องขอขึ้นมาทำกินแบบเดียวกันอีก แต่ถ้าหาวิธีการอื่นด้วยการแก้ปัญหาความเดือดร้อนในเรื่องที่ทำกิน ที่อยู่อาศัย ทางเจ้าหน้าที่ก็พร้อมจะดำเนินการหาทางแก้ไขให้โดยเร่งด่วน
น.ส.เนตรนภา กล่าวว่า ได้เสนอให้ชาวบ้านส่งตัวแทน 5 คน ลงไปเจรจากันที่บ้านบางกลอยด้านล่าง ในวันที่ 25 ก.พ. 64 ซึ่งฝ่ายอุทยานจะส่งตัวแทนมาเจรจากับฝ่ายชาวบ้านเพื่อรับฟังข้อเรียกร้องต่าง ๆ พร้อมให้มีสื่อมวลชนร่วมรับฟังการเจรจาเพื่อเป็นสักขีพยาน ส่วนชาวบ้านที่อยู่บางกลอยบน จะไม่มีการบุกรุกหรือเผาป่าเพิ่มจนกว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงกันในวันที่ 25 ก.พ. นี้ต่อไป
ด้านนายยุทธพล อังกินันทน์ ที่ปรึกษารมว.การกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานว่ามีชาวบ้านเดินเท้าขึ้นไปเพิ่มอีก 38 คน รวมกลุ่มเดิม 21 คน เป็น 59 คนแล้ว สำหรับตัวแทนกระทรวงที่มีอำนาจตัดสินใจ จะปรึกษากับนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติ และนำเข้าสู่คณะกรรมการเรื่องนี้ซึ่งมีรองปลัดกระทรวงฯ เป็นประธานต่อไป