ธุรกิจ 'ร้านอาหารไทย' ในจีนเฟื่องฟู อานิสงส์โลจิสติกส์สะดวกรวดเร็ว
หางโจว, 18 พ.ย. (ซินหัว) -- คเชนทร์ณัฐ หยางอริยมงคล ชาวไทยผู้โยกย้ายไปใช้ชีวิตในหลายเมืองของจีนมานานราว 15 ปี ตัดสินใจกลับมาเปิดร้านอาหารไทยเล็กๆ ในตำบลโซ่วชาง เมืองเจี้ยนเต๋อ มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน ซึ่งเป็นบ้านเกิดภรรยาในปี 2019
คเชนทร์ณัฐ ผู้คร่ำหวอดในวงการอาหารมานานกว่า 30 ปี เผยว่าการเปิดร้านอาหารในโซ่วชางทำให้เขารู้สึกราวกับอยู่ที่บ้าน เพราะโซ่วชางมีภูเขาและแม่น้ำสวยงาน และวิถีชีวิตสบายๆ คล้ายกับบ้านเกิดที่จังหวัดนครปฐมร้านอาหารของคเชนทร์ณัฐนำเข้าวัตถุดิบจากไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติต้นตำรับมากที่สุด
โดยปัจจุบันการซื้อขายและขนส่งวัตถุดิบสดใหม่นั้นง่ายขึ้นกว่าที่เคยด้วยอานิสงส์ความนิยมอาหารไทยในจีนและการแลกเปลี่ยนทางธุรกิจระหว่างสองประเทศที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ร้านอาหารของคเชนทร์ณัฐตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมือง แต่ลูกค้าจากทั้งในหางโจวและพื้นที่โดยรอบต่างหลั่งไหลมาลิ้มรสไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงวันหยุด และแม้เผชิญการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) แต่ธุรกิจอาหารไทยกลับมีแนวโน้มพัฒนาดีขึ้นคเชนทร์ณัฐเผยว่าการนำเข้าวัตถุดิบในอดีตนั้นยากลำบาก และใช้เวลานานราว 2-3 สัปดาห์ แต่ปัจจุบันมีผู้นำเข้าและซัพพลายเออร์ในจีนมากขึ้น
ร้านของเขาได้รับวัตถุดิบดั่งเดิมและสดใหม่ใน 2-3 วันเท่านั้นนอกจากอาหารไทย มะพร้าวที่นำเข้าจากไทยก็ได้รับความนิยมมากขึ้นในจีน ข้อมูลจากเหอหม่า เฟรช (Hema Fresh) ร้านค้าของสดในเครืออาลีบาบา กรุ๊ป เผยว่า ยอดจำหน่ายน้ำมะพร้าวที่นำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในสิบเดือนแรกปีนี้ เมื่อเที่ยบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ยอดจำหน่ายมะพร้าวสดคาดว่าจะสูงถึง 140 ล้านหยวน(ราว 703ล้านบาท)ในปีนี้อนึ่ง ข้อมูลจากสำนักพาณิชย์มณฑลเจ้อเจียงระบุว่าปริมาณการค้าระหว่างเจ้อเจียงและไทยในปี 2021 สูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.37 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.2 เมื่อเทียบปีต่อปี
โดยแบ่งเป็นปริมาณการส่งออกสู่ไทย 9.62 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.44 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.2 เมื่อเทียบปีต่อปี และปริมาณการนำเข้าจากไทย 5.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.94 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 37.9 เมื่อเทียบปีต่อปีจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุด ตลาดส่งออกสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ที่สุด และแหล่งการลงทุนจากต่างประเทศที่สำคัญของไทย โดยปริมาณการค้าทวิภาคีระหว่างสองประเทศทะลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 3.58 ล้านล้านบาท) เป็นครั้งแรกในปี 2021 แม้เผชิญโรคระบาดใหญ่ และคาดว่าจะสูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากแผนริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP)