'ขาว ใส หน้า V-Shape' มายาคติความงามที่คนเอเชียกำหนด และต่อสู้-ทุ่มเงินแลก เพื่อความสวย

ผู้เชี่ยวชาญด้านความงามท่านหนึ่งกล่าวว่า แม้ความสวยงามของใบหน้าสามารถได้มาด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ความงาม และผ่านขั้นตอนการผ่าตัด แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนคงอยู่เพียงชั่วคราว ดังนั้น “จงยอมรับในสิ่งที่คุณมี”

 

 

 

 

 

 

 

ทรีตเมนต์ปรับรูปหน้า Venus Freeze ใช้เวลาในการทำเพียง 30 นาที เป็นวิธีกระชับผิวที่ได้รับความนิยมจากลูกค้าของคลินิกความงามทางการแพทย์

 

 

 

ในระหว่างการทำทรีตเมนต์จะรู้สึกผ่อนคลาย จนอาจทำให้เผลอหลับได้อย่างไม่รู้ตัว พนักงานจะลูบไล้อุปกรณ์ที่มีความอุ่น ทั่วใบหน้าและลำคอ

 

 

 

อุปกรณ์จะปล่อยคลื่นความถี่วิทยุและสนามแม่เหล็กแบบพัลซิ่ง เพื่อให้ผิวเต่งตึง และปรับรูปทรงใบหน้า ผลลัพธ์จะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล ส่วนใหญ่จะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง กรามที่ดูคมชัดขึ้น และลักษณะของโหนกแก้มที่ชัดเจน ซึ่งเป็นลักษณะของใบหน้ารูปตัววี หรือที่เรียกว่า V-shape

 

 

 

 

 

ผลิตภัณฑ์หลายอย่างกลายเป็นที่นิยมในหมู่คนรักสวยรักงาม อาจเป็นเพราะนักร้องเคป็อปชื่อดัง อย่าง BLACKPINK ที่ไม่ว่าจะถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ตัวไหนก็ดังพลุแตก หรือแม้กระทั่งคนดังของจีน อาทิ แองเจล่าเบบี้ และหยาง มี่ ทำให้การดูแลรักษาใบหน้า และความงามเป็นที่นิยมมากขึ้น รวมถึงการขายผลิตภัณฑ์ความงามที่เห็นผลทันใจ แก่ผู้ที่ปรารถนารูปหน้าแบบดังกล่าว

“ชาวเกาหลีนิยมทำหน้า V-shape และกลายเป็นมาตรฐานความงามของเกาหลี เพราะฉะนั้น การดูแลสุขภาพผิวหน้าส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่ใบหน้าแบบในอุดมคติที่สมมาตร และมีความอ่อนเยาว์” ดร.เควิน ชัว ผู้ร่วมก่อตั้ง Dr Kevin Chua Medical & Aesthetics Clinic ในประเทศสิงคโปร์ กล่าว

 

 

 

นอกจากการดูแลรักษาผิวหน้าด้วยคลื่นความถี่วิทยุ อย่าง Venus Freeze แล้ว ยังมีกระบวนการเสริมความงามอื่น ๆ รวมถึงการโบท็อกซ์ เพื่อลดกล้ามเนื้อบริเวณกราม และการรักษาด้วยคลื่นอัลตราซาวด์อย่าง Ulthera ที่มีประสิทธิภาพสู่ชั้นผิวที่ลึกกว่าเดิม เพื่อเพิ่มความเต่งตึง และการฉีดฟิลเลอร์ เช่น Profhilo เพื่อความสมมาตรของใบหน้า และรูปลักษณ์ที่โค้งมนได้รูป

 

 

 

 

 

 

 

 

 

หลังจากที่ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกลายเป็นกระแสขึ้นมา Clarins คือแบรนด์ที่มีอิทธิพลในยุคแรก ๆ ด้วยผลิตภัณฑ์ยกกระชับใบหน้าแบบ V Shape ซึ่งเปิดตัวในช่วงปลายยุค 90 (ภายหลังเรียกว่า Contouring Facial Lift) เพื่อตอบสนองความต้องการของนักข่าวชาวญี่ปุ่น ที่อยากได้ผลิตภัณฑ์ที่สามารถ “ปรับแต่ง” ใบหน้ารูปไข่ได้

 

 

 

แบรนด์อื่น ๆ หลายแบรนด์ ตั้งแต่แบรนด์ระดับไฮเอนด์ อย่าง La Mer ไปจนถึงแบรนด์ระดับกลาง และตลาดมวลชน รวมถึง Bio-essence และ Sephora นำเสนอการขายยกกระชับและการปรับโครงหน้า รักษาสิว เซรั่ม และมาสก์ ไปจนถึงการลดเลือนรอยหมองคล้ำ และกำหนดรูปทรงใบหน้า (Contours)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ใบหน้าของคนเราแตกต่างกัน ทั้งในแง่ของสัดส่วนใบหน้า โครงสร้างของกระดูก การวางตัวของกล้ามเนื้อ และการสะสมไขมันบนใบหน้า"

 

 

 

"ไม่เข้าใจว่าทำไม แทนที่ผู้คนจะเห็นถึงความงามที่หลากหลาย แตกต่างกันในแบบของตัวเอง กลับทำให้ใบหน้ารูปไข่กลายเป็นรูปทรงใบหน้าที่สมบูรณ์แบบ” แลร์รี่ ยอ ผู้ศึกษาด้านความงามและช่างแต่งหน้า กล่าว

 

 

 

 

ความนิยมของฟิลเตอร์ (filter) ที่แพร่หลายบนโลกโซเชียล ทำให้คนเราเสพติดรูปลักษณ์มากขึ้นไปอีก

 

 

 

 

“ฟิลเตอร์ที่ได้รับความนิยมใน Douyin (TikTok เวอร์ชั่นจีน) และแอปสตรีมมิ่งของจีน หรือแม้กระทั่ง live streaming ต่างเปลี่ยนสีผิวให้กลายเป็นโทนซีด หรือขาวมากเกินไป ส่วนใหญ่ทำให้ใบหน้ายาวเป็น V-shape เหมือนภาพลวง ที่ไม่สามารถเป็นแบบนั้นได้ในชีวิตจริง” ยอ กล่าวเสริม

 

 

 

 

เขาแนะนำว่าเราควร “ยอมรับในสิ่งที่เรามี และดูแลอย่างเหมาะสม” อย่างเช่น เทคนิคการแต่งหน้า ไฮไลท์และคอนทัวร์ใบหน้า ที่ทำให้รูปหน้าชัดขึ้น เมื่อเทรนด์ความงามใหม่ ๆ มาถึง จะเป็นในเรื่องของการปรับเปลี่ยนการแต่งหน้าให้เข้ากับปัจจุบัน การถวิลหาใบหน้า V-shape นั้น สำหรับหลาย ๆ คน เหมือนกับการต่อสู้กับริ้วรอยที่เพิ่มขึ้นตามวัย ที่ไม่มีวันสิ้นสุด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แม้คำว่า V-shape ดูเหมือนเป็นการตลาดที่ดี สำหรับคนในยุคอินเทอร์เน็ต แต่อุดมคติด้านความงามแบบนี้มีมานานมากแล้ว ชารอน ลิม นักกลยุทธ์ด้านเนื้อหาเชิงกลยุทธ์ของ The Ate Group และอดีตหัวหน้าบรรณาธิการของ Elle สิงคโปร์ กล่าวว่า “ตอนนี้ทุกคนคุ้นเคยกับสิ่งที่เรียกว่า 'ความงามในอุดมคติ' ใบหน้าที่เพรียวบาง รูปไข่ปลายแหลม คางและกรามที่ชัดเจน แน่ล่ะว่าไม่ใช่เรื่องใหม่”

 

 

 

 

ดร. เอสเค ตัน ผู้ก่อตั้ง IDS Clinic ในสิงคโปร์กล่าวว่า ใบหน้ารูปไข่ถือเป็นประเภทที่สวยที่สุดตามมาตรฐานความงามของจีนแบบดั้งเดิม "เมื่อเวลาผ่านไปเรื่องนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็น 'มาตรฐาน' สําหรับความงามในหมู่ชาวเอเชียตะวันออกและกลายเป็นเกณฑ์มาตรฐาน"

 

 

 

 

ผู้ที่ไม่พึงพอใจกับผลลัพธ์ของผลิตภัณฑ์ความงาม หรือกระบวนการเสริมความงาม สามารถเลือกทําศัลยกรรมพลาสติกเช่น การผ่าตัดลดกราม ตันกล่าวว่า "ความสวยงามมีผลต่อชีวิตประจำวัน และมันปรับปรุงคุณภาพชีวิต หากต้นแบบสามารถทำได้จริง และศัลยแพทย์มั่นใจว่าจะได้รับรูปลักษณ์แบบที่ต้องการ ผมจะสนับสนุนนะ เพราะว่าการทำศัลยกรรมนี้อาจเปลี่ยนชีวิตได้เลย"

สิ่งสำคัญที่ผู้ทำศัลยกรรมต้องตระหนักคือมีความเสี่ยงในการผ่าตัด ระยะพักฟื้น และค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ตันกล่าวเสริม

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ชารอน ลิม หวังว่า ในปัจจุบันมีการผลักดันให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวกัน และความหลากหลายกลายเป็นเรื่องปกติมากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้หญิงจำนวนมากเริ่มเรียนรู้ที่จะรักตัวเองในแบบที่พวกเขาเป็น

 

 

 

 

เธอกล่าวว่า “ความจริงคืออายุ และแรงแรงโน้มถ่วงจะตามทันพวกเราทุกคน สิ่งที่ดีคือความคิดด้านความงาม กำลังขยายวงกว้าง ความหลากหลายและความเป็นปัจเจกบุคคล กำลังได้รับการยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ"

 

 

 

 

"อาจต้องใช้เวลาสักระยะกว่าจะกลายเป็นกระแสหลักในสังคม ฉันตั้งตารอเรื่องการยอมรับความงามที่แตกต่าง และ 'ความงามที่แท้จริง' มากกว่าเป้าหมายในอุดมคติที่เป็นไปไม่ได้”

 

 

 

 

เรื่อง : พัชรี จันทร์แรม

กราฟิก : ผกาทิพย์ ส่งแสง