DOHOME อวดยอดขายพุ่ง กางแผนปี65เปิดเพิ่ม5สาขา

นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) หรือ DOHOME เปิดเผยว่า นับตั้งต้นเดือนตุลาคม 2564 จนถึงปัจจุบันอัตราการเติบโตของยอดขายต่อสาขาเดิม (SSSG) เฉลี่ยเพิ่มขึ้นราว 30% ซึ่งสูงมากกว่าเมื่อเทียบกับช่วงอื่นของปี ปัจจัยหลักมาจากมาตรการคลายล็อกดาวน์ รวมถึงการเปิดประเทศ ทำให้ความต้องการซ่อมแซม บำรุงรักษา และตกแต่งที่อยู่อาศัยรับช่วงเทศกาลปีใหม่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน อีกทั้งยังเข้าสู่ช่วงไฮซีซันของธุรกิจ ทำให้คาดว่าในไตรมาส 4/2564 ยอดขายจะสูงที่สุดในปีนี้

SSSGพุ่ง30%

ในส่วนสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบ สาขายังเปิดดำเนินการได้ตามปกติ แต่อาจมีบางสาขาที่อยู่ในช่วงเฝ้าระวัง เช่น สาขาอุบลราชธานี สาขานครราชสีมา และสาขาชัยภูมิ เป็นต้น ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากสถานการณ์น้ำคลี่คลายลงจะทำให้มีความต้องการซ่อมแซมที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงมองว่าเฉลี่ยรวม SSSG ในช่วงไตรมาส 4/2564 มีโอกาสที่จะยืนเหนือ 20% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าที่ระดับ 10%

ปัจจุบันบริษัทได้เตรียมผลิตภัณฑ์ต่างๆ ทั้งในส่วนของหน้าบ้านและหลังบ้าน ให้เพียงพอรองรับความต้องการที่จะเกิดขึ้น โดยหากว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้ไม่มีผลกระทบจากน้ำท่วม หรือการกลับมาระบาดระรอกใหม่ของโควิด-19 ตลอดจนการปลดล็อกดาวน์หลายพื้นที่ในประเทศอย่างต่อเนื่อง ก็จะสนับสนุนให้ยอดขายต่อสาขาเดิม หรือ SSSG ทรงตัวในระดับสูงได้ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และคาดว่าจะสูงต่อไปในไตรมาส 1/2565 อีกด้วย

พร้อมกันนี้ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน และธันวาคม บริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนเปิด 2 สาขาไซส์ L ได้แก่ สาขาอมตะนคร ชลบุรี และสาขาในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เบื้องต้นคาดว่าใช้เงินลงทุนเฉลี่ยสาขาละ 400-450 ล้านบาท และในปี 2565 วางเป้าหมายเปิดสาขาใหม่เพิ่มอีก 5 แห่ง โดยในไตรมาสแรกสาขาใหม่จะอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ ปัจจุบันก่อสร้างไปได้มากกว่า 60% แล้วทั้ง 3 สาขาของปีหน้า โดยบริษัทยังคงเป้าหมายปี 2568 จะมีจำนวนสาขาไซส์ L เปิดให้บริการทั้งสิ้น 36 สาขา จากปลายปีนี้ที่จะมี 16 สาขา หรือวางเป้าหมายในการเปิดสาขาใหม่เฉลี่ยประมาณ 5 สาขาต่อปี

ขณะที่ราคาเหล็ก แม้ในช่วงสั้น ที่ผ่านมาราคาเหล็กโลกมีการย่อตัวลงบ้าง แต่บริษัทคาดว่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อ และไม่ผันผวนเหมือนช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน GP สินค้าเหล็กเฉลี่ยยังคงอยู่ในดับใกล้เคียงเดิมที่ประมาณ 10% เป็นอีกปัจจัยหนุนให้บริษัทสามารถรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้ในระดับที่ดี อย่างไรก็ดี บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยรวมทั้งปี 2564 จะยังทรงตัวดีเหนือ 20% และ 9% ตามลำดับ และคาดว่าจะเห็นการเติบโตของรายได้ไม่น้อยกว่า 30% จากปีก่อน

เข้าฤดูกาล"ซื้อ"

บริษัท หลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ DOHOME ว่า ในไตรมาส 4/2564 SSSG ทำได้ดีมีสัญญาณบวกของเดือน ต.ค. เป็นบวกมากกว่า 30% สูงกว่าไตรมาส 2/2564 ที่โตระดับ 14-16%เมื่อเทียบกับ ไตรมาส2/2563  โดยคาดว่าแนวโน้ม SSSG ของปี 2564 อาจทำได้มากกว่า 20% เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ดีกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดไว้เดิม 17-20% การขยายสาขาใหม่ต่อเนื่องช่วยเสริมรายได้ในอนาคต ปลายปี 2564 เตรียมเปิด 2 แห่ง และในปี 2565 มีแผนเปิดเพิ่มอีก จำนวน 5 แห่ง

สำหรับในไตรมาส 3/2564 คาดกำไร 347 ล้านบาท ลดลง 42% จากไตรมาสก่อนหน้า แต่เพิ่มขึ้น 85% เมื่อเทียบช่วงไตรมาสเดียวกันในปีก่อน ในไตรมาส 4/2564ถึง ไตรมาส 1/2565 กำลังซื้อเพิ่มจากการเข้าสู่ช่วงฤดูกาลและผลกระทบจากน้ำท่วม ทำให้สินค้าซ่อมแซมจะได้รับความนิยม ในขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตาดูต่อไป อาทิ การกลับมาแพร่ระบาดของ COVID-19, ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมไปถึงภัยทางธรรมชาติ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัย ให้คำแนะนำ "ซื้อ" DOHOME โดยประเมินราคาเป้าหมายไว้ที่ 31.20 บาท