"Starbucks Korea" ออกกฎเข้มห้ามนำอาหารนอกเข้าร้าน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า Starbucks Korea ออกประกาศนโยบายใหม่ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยห้ามลูกค้านำอาหารจากภายนอกมารับประทานภายในร้านทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งถือเป็นการปรับมาตรการด้านการบริการครั้งสำคัญของแบรนด์กาแฟระดับพรีเมียมรายนี้ในรอบหลายปี
บริษัทระบุว่า การปรับนโยบายครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างบรรยากาศที่สะอาดและเป็นระเบียบ พร้อมยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าทุกกลุ่มที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งนี้ ได้มีการติดป้ายประกาศอย่างเป็นทางการในทุกสาขา เพื่อแจ้งให้ลูกค้าทราบถึงกฎใหม่ดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม Starbucks Korea ยังคงอนุโลมให้ลูกค้าที่มากับทารกสามารถให้อาหารเด็กภายในร้านได้ตามความจำเป็น เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสะดวกของผู้ปกครองและลูกค้าครอบครัว
ก่อนหน้านี้ Starbucks Korea เคยอนุญาตให้นำอาหารจากภายนอกเข้ามาได้ หากไม่มีลักษณะกลิ่นแรงหรือรบกวนผู้อื่น แต่ในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดกระแสวิพากษ์ในสังคมออนไลน์ หลังมีผู้ใช้หลายรายโพสต์ภาพและข้อความถึงลูกค้าบางกลุ่มที่นำอาหารประเภทต็อกบกกีและของทอดเข้ามารับประทานในร้าน ซึ่งถูกมองว่าไม่เหมาะสมกับบรรยากาศของคาเฟ่
เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทตัดสินใจออกนโยบายใหม่ เพื่อรักษามาตรฐานของแบรนด์และภาพลักษณ์ร้านกาแฟระดับพรีเมียมให้สอดคล้องกับแนวทางของ Starbucks ทั่วโลก
ผู้บริหารของ Starbucks Korea เปิดเผยว่า การจำกัดการนำอาหารและเครื่องดื่มจากภายนอกเข้ามาภายในร้าน เป็นมาตรการเพื่อรักษาความสะอาด ความเป็นระเบียบ และคุณภาพของประสบการณ์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้บริการในร้าน โดยตั้งเป้าให้ทุกสาขามีมาตรฐานเดียวกันทั้งในด้านบรรยากาศและบริการ
การปรับนโยบายในครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวหนึ่งในการยกระดับการบริหารพื้นที่ภายในร้านของ Starbucks Korea หลังก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ประกาศห้ามการนำคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ปลั๊กพ่วง และฉากกั้นส่วนตัวเข้ามาใช้ภายในร้าน เพื่อจำกัดพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าที่ใช้พื้นที่ร้านเป็นสถานที่ทำงานหรืออ่านหนังสือเป็นเวลานาน ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจและการตลาดมองว่า นโยบายใหม่ของ Starbucks Korea สะท้อนความพยายามของบริษัทในการคงภาพลักษณ์แบรนด์ระดับพรีเมียม และสร้างบรรยากาศที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะในตลาดกาแฟเกาหลีใต้ที่มีการแข่งขันสูงและมีผู้เล่นหลากหลายราย ทั้งแบรนด์ท้องถิ่นและต่างชาติ
ตลาดกาแฟในเกาหลีใต้มีมูลค่ากว่า 7 ล้านล้านวอนต่อปี และมีร้านกาแฟกระจายอยู่ทั่วประเทศมากกว่า 80,000 แห่ง ทำให้ Starbucks ต้องปรับกลยุทธ์ต่อเนื่อง เพื่อสร้างความแตกต่างด้านประสบการณ์และคุณภาพการบริการ
สำหรับลูกค้าชาวเกาหลีใต้จำนวนมาก Starbucks ไม่ได้เป็นเพียงร้านกาแฟ แต่เป็นพื้นที่พบปะและพักผ่อนในชีวิตประจำวัน การรักษาบรรยากาศให้เหมาะสมกับทุกกลุ่มจึงถือเป็นภารกิจสำคัญของแบรนด์ในช่วงเวลาที่ตลาดกาแฟกำลังเติบโตต่อเนื่อง
การออกนโยบายใหม่ในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่เป็นการรักษามาตรฐานร้านกาแฟเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณของการปรับสมดุลระหว่างความสะดวกของลูกค้ากับคุณค่าของแบรนด์ ที่ Starbucks Korea ต้องการสื่อให้เห็นอย่างชัดเจน
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
