"ส่งออก"ไทยเสี่ยงหดตัวช่วงที่เหลือของปีนี้

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ SCB EIC  ระบุว่ามูลค่าส่งออกสินค้าเดือน ส.ค. 2025 อยู่ที่ 27,743.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐขยายตัวชะลอลงมากเหลือร้อยละ 5.8 จากร้อยละ 11.0 YoY ในเดือนก่อน และชะลอลงมากกว่าที่ SCB EIC และค่ากลาง Reuter Poll ประเมินที่ร้อยละ 9.5 

SCB EIC คาดว่ามูลค่าส่งออกไทยในช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้เสี่ยงหดตัวจากภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ที่เริ่มเห็นผลตั้งแต่เดือน ส.ค. และ Specific tariffs ที่สหรัฐฯ เตรียมประกาศเพิ่ม โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทยไปสหรัฐฯ ที่ยังเติบโตสูงมากในช่วง 8 เดือนแรกของปีก่อนถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่ม ชี้ว่าการส่งออกไทยในเดือน ส.ค. ขยายตัวจากปัจจัยชั่วคราว ทั้งการเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และทองคำไม่ขึ้นรูป หากไม่นับปัจจัยชั่วคราวนี้ การส่งออกไทยเดือน ส.ค. อาจไม่มีการเติบโตหรือหดตัวไปแล้ว

นอกจากนี้ อัตราการเติบโตของมูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯร้อยละ 12.8 YOY มาจากสินค้าหมวดอิเล็กทรอนิกส์เป็นตัวหลัก (CTG) มากถึงร้อยละ 13.4 YOY (สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่สหรัฐฯ ยังยกเว้นภาษีมี CTG 12.2%YOY)  สะท้อนว่า หากไม่มีแรงส่งจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ อาจหดตัว 

นอกจากนี้ ส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ยังเผชิญปัจจัยฐานสูง และค่าเงินบาทแข็งนำภูมิภาค ซึ่งอาจเป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการแข่งขันของภาคการส่งออกของไทยเพิ่มเติมนอกจากปัจจัยภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ได้

สอดคล้องกับมุมมองของศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่าถึงแม้ว่าการส่งออกไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปีขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 13.3 YoY แต่ช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะหดตัวอย่างมีนัยสำคัญ แต่ทั้งปี 2568 ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการภาพรวมการส่งออกไทยขยายตัวอยู่ที่ร้อยละ 5.7  

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลการพิจารณาของศาลฎีกาของสหรัฐฯ  ซึ่งหากศาลตัดสินว่าประนาธิบดีทรัมป์ฯ ใช้อำนาจในการขึ้นภาษีนำเข้าภายใต้กฎหมายอำนาจทางเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ (IEEPA)  เกินขอบเขต อาจส่งผลให้การปรับขึ้นภาษี Reciprocal Tariffs ถูกยกเลิก