BDMSเล็งเวลเนสซิตี้ต่อยอด ขยายพอร์ตต่างชาติโตแกร่ง
#BDMS #ทันหุ้น - BDMS แย้มอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการพัฒนาโครงการเวลเนสซิตี้ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม คาดได้เห็นความชัดเจนภายในปี 2568 ล่าสุดร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ Thailand Privilege Card อัพฐานต่อยอดธุรกิจเพิ่ม ขี้หากลุล่วงดันพอร์ตเวลเนสต่างชาติวิ่งชนระดับ 65% ในสิ้นปี 2568
นพ.ตนุพล วิรุฬหการุญ ประธานคณะผู้บริหาร บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก และบีดีเอ็มเอส เวลเนส รีสอร์ท ในเครือของ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเรื่องการพัฒนาโครงการเวลเนสซิตี้ ในโซนพื้นที่หลังสวน เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม หวังได้เห็นความชัดเจนเกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ ภายในปีนี้
ร่วมพาร์ตเนอร์อัพฐาน
ล่าสุดทางบีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) คลินิกสุขภาพเชิง ป้องกันของประเทศไทย ในเครือ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS ร่วมกับพาร์ตเนอร์ คือบริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จํากัด (Thailand Privilege Card) ผู้ให้บริการบัตรสมาชิกไทยแลนด์ พริวิเลจ เอกสิทธิ์วีซ่าพำนักระยะยาว ภายใต้การกำกับดูแลของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) นำเสนอบริการที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์ พิเศษแก่ชาวต่างชาติระดับสูง ผลักดันประเทศไทย ขึ้นแท่น Wellness Hub Thailand และ Top 5 จุดหมายปลายทางด้านการ ท่องเที่ยวเชิงสุขภาพระดับโลก
ทั้งนี้จากรายงานของGlobal Wellness Institute (GWI) องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ศึกษาและวิจัยด้านสุขภาพเชิงป้องกันและ อุตสาหกรรมเวลเนสทั่วโลก เผยข้อมูลด้านการเติบโตของอุตสาหกรรมเวลเนสล่าสุดว่า ในปี 2566 ธุรกิจเกี่ยวกับสุขภาพมีมูลค่าสูงถึง 6.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าในปี 2571 จะมีมูลค่าสูงขึ้นเป็น 9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ7.3% สูงกว่า GDP โลกซึ่งอยู่ที่ 4.8% สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพมากขึ้น จนทำให้ผู้ประกอบการตอบรับ เทรนด์ด้านธุรกิจสุขภาพอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ดี ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์ด้านธุรกิจท่องเที่ยว ที่สำคัญของโลก และมีปัจจัยหลักในการดึงดูดชาวต่างชาติคุณภาพสูงให้เข้ามาพำนักระยะยาว ได้แก่ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่งดงามอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์ วัฒนธรรมไทยและการบริการที่มีคุณภาพ การแพทย์แผนไทยที่ผสานสมุนไพรอย่างมี ประสิทธิภาพ และความก้าวหน้าด้านการแพทย์ที่เทียบเท่ามาตรฐานสากลปัจจัยเหล่านี้ช่วยสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางชั้นนำสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ความร่วมมือในครั้งนี้ จะถือเป็นก้าว สำคัญที่จะส่งเสริมภาพลักษณ์ด้านศักยภาพการแพทย์ไทยสู่กลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงและมีคุณภาพ ส่งผลให้ประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการพำนักระยะยาว
ปีนี้พอร์ตต่างชาติแตะ 65%
สำหรับความร่วมมือกับทาง Thailand Privilege Card ครั้งนี้น่าจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนฐานกลุ่มผู้ใช้บริการเวลเนสชาวต่างประเทศของบริษัทให้เพิ่มสูงขึ้น จากเดิมที่ราว 2 แสนราย เพราะปัจจุบัน Thailand Privilege Card มีสมาชิกมากกว่า 37,000 ราย ซึ่งหากทุกอย่างสามารถสำเร็จได้ตามที่วางไว้คาดน่าจะช่วยสนับสนุนให้กลุ่มผู้ใช้บริการชาวต่างประเทศขยับเพิ่มเป็น 65% ได้ในสิ้นปี 2568 จากเดิมที่ราว 55%
อนึ่ง สำหรับโครงสร้างรายได้ของ BDMS เดิมนั้นมาจากกลุ่มเวลเนสอยู่ที่ราว 11% ส่วนเหลือมาจากธุรกิจการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลต่างๆ รวมถึงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
ด้านนายมนาเทศ อันนวัฒน์ ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยแลนด์ พริวิเลจ คาร์ด จำกัด กล่าวว่า “การร่วมมือกับ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก ครั้งนี้ เป็นการจับมือพาร์ตเนอร์ด้านHealth & Wellness เพื่อนำเสนอบริการแก่สมาชิกชาวต่างชาติกว่า37,000 คน ซึ่งบริษัทมีความภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอศักยภาพของการแพทย์และบริการด้านสุขภาพไทยผ่านการให้บริการสิทธิประโยชน์ของบริษัท ซึ่งเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการยกระดับการให้บริการผลักดันการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทย โดยไทย แลนด์ พริวิเลจ เชื่อมั่นในศักยภาพด้านการแพทย์ระดับสากลของ บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก แก่ชาวต่างชาติคุณภาพสูงที่ต้องการ พำนักในไทย และกลุ่มที่ใส่ใจสุขภาพที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน