กกพ. เสนอคงค่าไฟต้นปี 69 ที่ 3.94 บาท แม้ต้นทุนเชื้อเพลิงลดลง

คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติเปิดรับฟังความคิดเห็นอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่าเอฟที) สำหรับงวดเดือนมกราคม–เมษายน 2569 โดยเสนอ 2 ทางเลือก คือ

 1. ค่าไฟเฉลี่ย 4.58 บาทต่อหน่วย (เพิ่มจากปัจจุบัน)

 2. ค่าไฟเฉลี่ย 3.94 บาทต่อหน่วย (คงอัตราเดิม)

แม้ต้นทุนเชื้อเพลิงหลัก ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน จะลดลงต่อเนื่อง และเงินบาทแข็งค่าขึ้นช่วยลดต้นทุนการนำเข้า แต่ กกพ. ชี้ว่า ยังจำเป็นต้องทยอยชำระคืนภาระต้นทุนเชื้อเพลิงคงค้าง (ค่า AF) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อให้ทั้งสองหน่วยงานสามารถฟื้นเสถียรภาพทางการเงินและรักษาความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว

ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงาน กกพ. กล่าวว่า “แม้แนวโน้มค่าไฟขาลง แต่การคืนหนี้เชื้อเพลิงเป็นภารกิจสำคัญ เพื่อเสริมเสถียรภาพระบบพลังงาน และช่วยให้กฟผ.มีสภาพคล่องเพียงพอในอนาคต”

ทั้งนี้ กกพ. รายงานว่า ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2568 ยอดคงค้างค่า AF ลดลงเหลือ 47,058 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนค่าก๊าซธรรมชาติของรัฐวิสาหกิจลดเหลือประมาณ 12,000 ล้านบาท หลังทยอยคืนหนี้จากงวดเดือนพฤษภาคม–สิงหาคม 2568 รวม 6 งวด มูลค่า 12,200 ล้านบาท

สำหรับงวดต้นปี 2569

• กรณีที่ 1 หากจ่ายคืนหนี้คงค้างทั้งหมด ค่า Ft จะอยู่ที่ 79.75 สตางค์ต่อหน่วย รวมค่าไฟเฉลี่ย 4.58 บาทต่อหน่วย เพิ่มขึ้นราว 16%
• กรณีที่ 2 หากตรึงค่า Ft เท่ากับปัจจุบัน จะอยู่ที่ 15.72 สตางค์ต่อหน่วย รวมค่าไฟเฉลี่ย 3.94 บาทต่อหน่วยเท่ากับเดิม แต่จะคืนหนี้ได้เพียงบางส่วน

กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผ่านเว็บไซต์สำนักงาน ตั้งแต่วันที่ 10–23 พฤศจิกายน 2568 ก่อนสรุปและประกาศอัตราค่าไฟทางการ

พร้อมกันนี้ กกพ. ยังรณรงค์ให้ประชาชนร่วมประหยัดพลังงานด้วยหลัก “5 ป.” ได้แก่

ปลดปลั๊ก – ปิดไฟ – ปรับแอร์ 26 องศา – เปลี่ยนอุปกรณ์ประหยัดไฟเบอร์ 5 – ปลูกต้นไม้ลดความร้อน เพื่อช่วยลดค่าไฟฟ้าและรักษาทรัพยากรพลังงานของประเทศ