ชีวิตเปลี่ยนเฟส 2 เปิดห้างแล้ว ปิด 2 ทุ่ม ขยับเคอร์ฟิวไป 5 ทุ่ม บขส.ไปตจว.เริ่ม 18 พ.ค.ใส่หน้ากากตลอดเส้นทาง
ศบค.ปลดล็อกเฟส2 เริ่มอาทิตย์ 17 พ.ค.นี้ เปิดห้าง-ร้านค้าในห้าง บขส.ทยอยเปิดเดินรถไปตจว.เริ่ม 18 พ.ค. บินในประเทศก็เริ่มกทม.-สมุย ภูเก็ตรอก่อน
เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีมติผ่อนปรนมาตรการครวบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในระยะที่ 2 ให้เปิดให้กิจการและกิจกรรมบางประเภทกลับมาเปิดให้บริการได้ เริ่มใตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม เป็นต้นไป
นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงรายละเอียดว่า กิจการและกิจกรรมที่ให้เปิดเพิ่ม คือ 1.กิจการด้านเศรษฐกิจและการดำเนินชีวิต โดย กลุ่ม ก. ได้แก่ ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มในอาคารสำนักงาน โรงอาหาร หรือศูนย์อาหารภายในหน่วยงาน กลุ่ม ข. คือ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้ปิดบริการถึงช่วงเวลา 20.00 น. อนุญาตให้เปิดในส่วนสินค้าอุปโภคบริโภค ร้านขายปลีก ธุรกิจคอมพิวเตอร์ ร้านหนังสือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ฟู้ดคอร์ท คลินิกเวชกรรม สถานทันตกรรม เป็นต้น ส่วนกลุ่มที่ยังปิดต่อไปคือโรงภาพยนตร์ สวนสนุก สวนน้ำ ตู้เกม กลุ่ม ค. คือ ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่งขนาดย่อม/ค้าส่งชุมชน ตลาด ตลาดน้ำ และตลาดนัด
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 2.กิจกรรมด้านการออกกำลังกายหรือการดูแลสุขภาพ กลุ่ม ก. คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม ให้สามารถทำเฉพาะเรือนร่าง ผิวพรรณ และเลเซอร์ ยกเว้นการทำความงามบริเวณใบหน้า แต่ที่ยังปิดต่อไปคือ กลุ่มข. สถานเสริมความงามควบคุมน้ำหนัก สถานที่สักหรือเจาะผิวหนัง สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด กลุ่ม ค. คือสนามกีฬา เฉพาะกีฬาประเภทกลางแจ้งและไม่มีการปะทะกัน โดยเล่นเป็นทีม ทีมละไม่เกิน 3 คน และไม่มีผู้ชมการแข่งขัน เช่น แบดมินตัน เซปักตะกร้อ เทเบิลเทนนิส โยคะ ส่วนฟิตเนส ให้เปิดเฉพาะส่วน ห้ามใช้เครื่องลู่วิ่ง จักรยานปั่น หรือเครื่องออกกำลังกายอื่นๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ต้องใช้การจับหรือสัมผัส
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า 3.กิจกรรมอื่นๆ กลุ่ม ก. คือ ห้องประชุม ศูนย์ประชุม เปิดเฉพาะให้บริการจัดประชุมขององค์กรหรือหน่วยงาน ลักษณะนั่งประชุมแบบจำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งจะทำให้โรงแรมสามารถออกมาเปิดได้แล้ว กลุ่ม ข. คือ ห้องสมุดสาธารณะ แกลอรี่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑ์ และกลุ่ม ค. คือ กิจการถ่ายภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ส่วนหน้าฉากรวมกลุ่มได้ไม่เกิน 10 คน และทุกแผนกรวมกันได้ไม่เกิน 50 คน นอกจากนี้ได้ปรับระยะเวลาการห้ามออกนอกเคหสถานจาก 22.00-04.00 น. เป็น 23.00-04.00 น. รวมไปถึงการงดหรือชะลอการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัด
บขส.เดินรถเหนือ-อีสาน 18 พ.ค.
ด้านความคืบหน้าการเปิดให้คบริการขนส่งสาธารณะทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) แจ้งว่า บขส.เตรียมเปิดเดินรถใน เส้นทางภาคเหนือ จำนวน 7 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่, กรุงเทพฯ-เชียงราย, กรุงเทพฯ-อุตรดิตถ์, กรุงเทพฯ-สารจิตร, กรุงเทพฯ-แม่สอด, กรุงเทพฯ-หล่มเก่า, กรุงเทพฯ-คลองลาน
เส้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออก จำนวน 9 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-หนองบัวลำภู, กรุงเทพฯ-สกลนคร, กรุงเทพฯ-เชียงคาน, กรุงเทพฯ-สุรินทร์, กรุงเทพฯ-บุรีรัมย์, กรุงเทพฯ-กันทรลักษ์, กรุงเทพฯ-ศรีสะเกษ, กรุงเทพฯ-รัตนบุรี, กรุงเทพฯ-จันทบุรี ตั้งแต่วันที่ 18 พฤษภาคม เป็นต้นไป
ส่วน เส้นทางภาคใต้ เตรียมเปิดเดินรถ จำนวน 3 เส้นทาง ประกอบด้วย เส้นทางกรุงเทพฯ-เกาะสมุย, กรุงเทพฯ-ภูเก็ต, กรุงเทพฯ-ตรัง เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2563
สวมหน้ากากตลอดการเดินทาง
ด้าน สนามบินสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้เริ่มเปิดให้บริการแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม เฉพาะเที่ยวบินภายในประเทศ ไป-กลับ วันละ 4 เที่ยวบิน โดยยังคงมีมาตรการเข้มงวดด้านสุขอนามัย ผู้โดยสารจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่บนเครื่องบิน เมื่อมาถึงก่อนเข้าอาคารผู้โดยสารต้องล้างมือด้วยแอลกอฮอล์ เหยียบน้ำยาฆ่าเชื้อ ผ่านจุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยกล้องอินฟราเรด
ขณะที่ สนามบินภูเก็ต ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการในวันที่ 16 พฤษภาคม จำเป็นต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศ กพท. ให้เลื่อนเปิดบริการออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ในจ.ภูเก็ตถือว่ายังมีความเสี่ยง จำเป็นต้องป้องกันไม่ให้โรคกลับมาแพร่ระบาดใหม่ในพื้นที่