ขุดหลุมยักษ์ฝังศพเหยื่อเหมืองหยกมรณะ กู้ขึ้นมาได้แล้ว 171 ศพ
ขุดหลุมยักษ์ฝังศพเหยื่อเหมืองหยกมรณะ กู้ขึ้นมาได้แล้ว 171 ศพ สูญหายอีกจำนวนมาก รัฐบาลเมียนมาประกาศตั้งคณะกรรมการ สอบสวนภัยพิบัติครั้งนี้
จากกรณีเกิดภัยพิบัติสะเทือนใจชาวเมียนมา เมื่อเกิดเหตุดินโคลนถล่มที่เหมืองหยกในเมืองปะกัน หรือพากัน รัฐคะฉิ่น ทางตอนเหนือ หลังพายุฝนฤดูมรสุมตกกระหน่ำต่อเนื่อง ทำให้คลื่นดินโคลนจำนวนมหาศาลถาโถมใส่ผู้คนในพื้นที่เหมืองหยก โดยมีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 130 ศพ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ร่างของคนงานเหมืองหยกหลายร้อยชีวิต ที่เสียชีวิตจากเหตุดินถล่มในพื้นที่ตอนเหนือของเมียนมา ถูกนำไปฝังรวมกันในหลุมยักษ์เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ผ่านมา ตามการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น หลังจัดการฝังศพไปแล้ว 77 ศพ เมื่อวันศุกร์ที่ 3 ก.ค. ในอุบัติเหตุจากการทำเหมืองครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ
ทั้งนี้ คนงานมากกว่า 170 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่นที่เข้ามาแสวงหาโชคลาภในพื้นที่ของเมืองผากัน ที่อุดมไปด้วยหยกในรัฐกะฉิ่น เสียชีวิตลงในวันที่ 2 ก.ค. หลังกองดินสูงจากการขุดเหมืองถล่มลงสู่ทะเลสาบเบื้องล่าง จนทำให้เกิดคลื่นน้ำซัดท่วมคนงานที่กำลังขุดหาหยกและฝังพวกเขาอยู่ใต้โคลน
ธา ลิน หม่อง เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจากกระทรวงข้อมูลข่าวสารกล่าวกับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า เจ้าหน้าที่สามารถกู้ศพขึ้นมาได้แล้ว 171 ศพ และยังมีศพอีกจำนวนมากลอยอยู่ในน้ำ
ศพที่ฝังไปเมื่อวันศุกร์ทั้งหมด 77 ศพ เป็นศพที่ระบุยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว และวันนี้ฝังเพิ่มอีก 39 ศพ โดยอาสาสมัครนำโลงศพวางเรียงกันในหลุมยักษ์ ที่ขุดขึ้นในพื้นที่ใกล้กับบริเวณเหมืองหยก
ทั้งนี้ เมียนมาเป็นแหล่งผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยหยกส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปยังจีนที่มีพรมแดนติดกับรัฐกะฉิ่น อุบัติเหตุร้ายแรงและดินถล่มเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติในเหมืองเหล่านี้ ที่ผ่านมามีดินถล่มเมื่อปี 2558 ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 100 คน และอีกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2561 มีผู้เสียชีวิต 50 คน แต่ดินถล่มที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา นับว่าเลวร้ายที่สุดในความทรงจำ
รัฐบาลเมียนมาประกาศตั้งคณะกรรมการขึ้นชุดหนึ่ง เพื่อสอบสวนภัยพิบัติที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม นักเคลื่อนไหวกล่าวว่า แม้รัฐบาลของซูจีจะให้คำมั่นว่าจะจัดการสะสางอุตสาหกรรมนี้เมื่อครั้งที่เข้ามาบริหารประเทศในปี 2559 แต่กลับมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อยกับอุตสาหกรรมเหมืองหยก