รีเซต

เงินบาทเช้านี้ 16 พ.ค. เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้น” ที่ระดับ 33.17 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทเช้านี้ 16 พ.ค. เปิดตลาด “แข็งค่าขึ้น”  ที่ระดับ 33.17 บาท/ดอลลาร์
TNN ช่อง16
16 พฤษภาคม 2568 ( 08:33 )
22

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  33.17 บาท/ดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันที่ผ่านมา ณ ระดับ  33.32 บาท/ดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทในช่วง 24 ชั่วโมง คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 33.00-33.30 บาท/ดอลลาร์

นับตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมา เงินบาท (USDTHB) พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในกรอบ 33.17-33.38 บาทต่อดอลลาร์) หนุนโดยการรีบาวด์สูงขึ้นต่อเนื่องของราคาทองคำ ที่ได้แรงหนุนจากทั้งแรงซื้อ Buy on Dip ของผู้เล่นในตลาด อีกทั้งความไม่แน่นอนของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ก็มีส่วนช่วยหนุนความต้องการถือทองคำในช่วงนี้

 นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้แรงส่งเพิ่มเติมจากจังหวะย่อตัวลงของเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ หลังรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในช่วงคืนที่ผ่านมา ออกมาผสมผสาน (ดัชนีราคาผู้ผลิต PPI และดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดสาขานิวยอร์ก ออกมาต่ำกว่าคาด ส่วนยอดค้าปลีกและยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานดีกว่าคาดเล็กน้อย) โดยภาพดังกล่าวทำให้ ผู้เล่นในตลาดทยอยเพิ่มโอกาสเฟดสามารถลดดอกเบี้ยในปีนี้ได้ราว 3 ครั้ง เป็น 25% จากราว 0% ในช่วงก่อนรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว

ในช่วง 24 ชั่วโมงหลังจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) พร้อมรอลุ้น รายงานอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะสั้นและระยะยาว (Inflation Expectations) ในรายงานเดียวกัน โดยในช่วงที่ผ่านมา ตลาดการเงินมีความอ่อนไหวกับข้อมูล Soft Data หรือ Survey-Based Data อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฯ พอสมควร

ส่วนในฝั่งยุโรป ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของ ECB และนอกเหนือจากปัจจัยข้างต้น ผู้เล่นในตลาดจะติดตามการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน รวมถึงพัฒนาการของนโยบายการค้าของสหรัฐฯ โดยเฉพาะความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับบรรดาประเทศคู่ค้า

แนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า การกลับมาแข็งค่าขึ้นของเงินบาทนับตั้งแต่ช่วงบ่ายของวันก่อนหน้านั้น ไม่ได้เหนือความคาดหมายมากนัก หลังราคาทองคำสามารถทยอยรีบาวด์สูงขึ้นจากโซนแนวรับในระยะสั้นได้ อย่างไรก็ดี เราคงมุมมองเดิมว่า ราคาทองคำถือว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบาทเสี่ยงเคลื่อนไหวลักษณะ Two-Way ขึ้นกับแนวโน้มราคาทองคำ 

โดยล่าสุด การรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำอาจชะลอลงบ้าง เนื่องจากผู้เล่นในตลาดอาจรอรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะรายงานข้อมูล Soft Data จากฝั่งสหรัฐฯ อย่าง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน รวมถึงการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน โดยในกรณีที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคฯ ออกมาแย่กว่าคาดชัดเจน ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดกลับมากังวลแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติม ซึ่งจะสะท้อนผ่านการปรับเพิ่มโอกาสเฟดสามารถลดดอกเบี้ยราว 3 ครั้ง ในปีนี้ ได้ 

โดยอาจเห็นการย่อตัวลงบ้างของทั้งเงินดอลลาร์และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ที่อาจหนุนการปรับตัวขึ้นต่อของราคาทองคำ นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนของการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ก็อาจยังพอช่วยหนุนราคาทองคำในระยะสั้นได้ แต่หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด อีกทั้งพัฒนาของการเจรจาสันติภาพมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ก็อาจกดดันให้ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงการพักฐานและเสี่ยงย่อตัวลงต่อได้กลับไปทดสอบโซนแนวรับระยะสั้นอีกครั้ง ได้ไม่ยาก

นอกเหนือจากการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ เรามองว่า เงินบาทอาจเผชิญแรงกดดันบ้าง จากแรงขายสินทรัพย์ไทยของบรรดานักลงทุนต่างชาติ รวมถึงแรงซื้อเงินดอลลาร์จากผู้เล่นในตลาดบางส่วน ทำให้การแข็งค่าขึ้นของเงินบาทอาจติดอยู่แถวโซนแนวรับหลัก 33.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะเดียวกัน เงินบาทก็ยังไม่สามารถอ่อนค่าลงชัดเจน จนทะลุโซนแนวต้านสำคัญ 33.50 บาทต่อดอลลาร์ ไปได้ง่าย จนกว่าจะเห็นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดชัดเจน รวมถึงตลาดไร้ปัจจัยเสี่ยง พร้อมเดินหน้าเปิดรับความเสี่ยงเพิ่มเติม ซึ่งภาพดังกล่าวควรจะเห็นการปรับตัวลดลงต่อของราคาทองคำด้วยเช่นกัน

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง