ผู้โดยสารรถไฟฟ้าเติบโต BEM อนาคตสดใส

#BEM #ทันหุ้น – โบรกเกอร์มีมุมมองเป็นบวกต่อหุ้นของบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM คาดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/66 เติบโตจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น แนะนำ “ซื้อ”  ให้ราคาเหมาะสมระดับ 10-11 บาท

บล.ทิสโก้ คาดกำไรสุทธิ 3Q23F เติบโต YoY ทรงตัว QoQ

บล.ทิสโก้ คาดกำไรสุทธิ 3Q23F ของ BEM อยู่ที่ 917 ล้านบาท (6.3% YoY, 1.8%QoQ) แม้ว่าจะรับรู้เงินปันผลลดลงจาก 336 ล้านบาท (เงินปันผล TTW , CKP) มาที่ 221 ล้านบาท (รับรู้เพียงเงินปันผลจาก TTW เท่านั้น) แต่บริษัทก็ยังมีแนวโน้มผลประกอบการที่ดีที่รักษาระดับกำไรสุทธิทรงตัว QoQ จากการเติบโตของรายได้ในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะรถไฟฟ้าที่รายได้เติบโต 22% YoY, 10% QoQ ตามจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมาแตะระดับ 4 แสนเที่ยวคนต่อวัน สำหรับรถใช้ทางด่วนเติบโตเล็กน้อยมาที่ 1.11 ล้านคันต่อวันทำให้รายได้รถใช้ทางด่วนเติบโต YoY, QoQ  คาดแนวโน้มอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจาก economy of scale ตามจำนวนผู้โดยสารและรถใช้ทางด่วนที่เพิ่มขึ้นมาที่ 43% และ SG&A/Sale อยู่ที่ 7.9% คาด EBITDA margin อยู่ที่ 54.7%

ผู้โดยสารเดือนตุลาคมยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

BEM รายงานตัวเลขในเดือนสิงหาคม ด้วยจำนวนรถใช้ทางด่วนที่ 1.1 ล้านคันต่อวัน (2% YoY, -1%MoM) และผู้โดยสาร 4.2 แสนเที่ยวต่อวัน (22% YoY, 0.1%MoM) ซึ่งยังเติบโตต่อเนื่อง แม้จะมีวันหยุดยาวในเดือนก็ตาม ซึ่งเรามองว่าเป็นผลมาจากกิจกรรมรอบเส้นทาง และการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองซึ่งส่งต่อผู้โดยสารมาสายสีน้ำเงิน และยังมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องในเดือนตุลาคม ปัจจุบันผู้โดยสารวันทำงานอยู่ที่ 4.72 แสนเที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 18% YoY

รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้มีความคืบหน้า คาดชัดเจนในปลายปีนี้ จะเป็นบวกต่อ BEM

รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้มีความคืบหน้ามากขึ้น โดย รฟม. อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดในการจัดหาเอกชนบริหารเดินรถไฟฟ้า คาดจะเสนอบอร์ด รฟม. พิจารณาในปีนี้ และเสนอต่อกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการ PPP และคณะรัฐมนตรีต่อไป โดยแนวทางเบื้องต้น รฟม. เปิดเผยว่าการเจรจากับเอกชนรายเดิมซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหนือ (เตาปูน-คลองบางไผ่) ซึ่ง BEM เป็นผู้ให้บริการในปัจจุบันเป็นวิธีการคุ้มค่าที่สุด

สำหรับรูปแบบสัญญามีโอกาสที่จะเปิดร่วมทุนแบบ PPP Gross Cost ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับสายสีม่วงเหนือ เพื่อสอดคล้องกับนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทต่อสายของรัฐ ซึ่งคาดจะเริ่มมีการเจรจาในปี 2026 เพื่อให้พร้อมเปิดบริการในปี 2027 ซึ่งมองว่าโครงการนี้จะเป็นอีกหนึ่ง upside สำหรับ BEM ประเมิน upside ราว 0.50 บาทต่อหุ้น อิงจากสายสีม่วงเหนือที่รับรู้รายได้ราว 2,500 ล้านบาท/ปี สำหรับการให้บริการ 16 สถานี

คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 10.60 บาท

ราคาหุ้น BEM ปรับลดลงในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลเกี่ยวกับนโยบายรัฐ อาทิ นโยบาย 20 บาทตลอดสาย บล.ทิสโก้มองว่านโนยาย 20 บาทตลอดสายมีผลกระทบที่จำกัด เนื่องจากรัฐต้องชดเชยให้กับเอกเชนสำหรับผลประโยชน์ที่เสียไป สำหรับโครงการสายสีส้ม รอการตัดสินคดีสุดท้ายสำหรับการปรับเปลี่ยน TOR สำหรับการประมูลครั้งที่ 2 ซึ่งศาลปกครองการพิจารณายกฟ้อง และอยู่ระหว่างการรอศาลปกครองสูงสุดพิจารณา บล.ทิสโก้มองว่าราคาหุ้นปรับลงมาสะท้อนไปมาแล้ว คงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าที่เหมาะสม 10.60 บาท (SOTP)

บล.ลิเบอเรเตอร์ ชี้คุณภาพกำไร 3Q23คาดดีงาม

บล.ลิเบอเรเตอร์คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม และประมาณการกำไรตามเดิม เนื่องจากทิศทางกำไร 3Q23 ยังคงสดใส อยู่ในกรอบประมาณการ โดยการปรับตัวลงของราคาหุ้น เกิดจากภาวะตลาดหุ้นซบเซา ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งดังเดิม

คาดกำไรสุทธิ 3Q23เติบโตทั้ง 2 ขา : บล.ลิเบอเรเตอร์คาดกำไรสุทธิ 3Q23 ที่ 936 ลบ. ขยายตัว +3.9% q-q และ +8.6% y-y แม้รายได้อื่นขนาดใหญ่มีเพียงเงินปันผลจาก TTW ราว232 ลบ. (ไตรมาสนี้ไม่มี CKP) แต่ด้วยปริมาณจราจรบนทางด่วนเพิ่ม + 1.3% q-q จากการเปิดภาคเรียน และ บนรถไฟฟ้าที่ขยายตัวแรง + 16.8% q-q และ +31.2% y-y ได้อานิสงส์จากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองเปิดให้บริการผนวกกับการกลับมาใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติของประชาชน เหล่านี้ทำให้ผลการดำเนินงานดีน่าพอใจ

รถไฟฟ้าทำนิวไฮ และคาดพลิกมีกำไรขั้นต้นได้แล้ว : ไตรมาสนี้สถิติใหม่ของจำนวนผู้โดยสารอยู่ในเดือน ก.ย.ที่ 4.2แสนเที่ยว/ วัน เพิ่มขึ้น +22.4% y-y และระหว่างไตรมาสก็แตะ 5 แสนเที่ยว/ วันอีกด้วย ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นธุรกิจรถไฟฟ้าคาดจะพลิกจาก -0.1% ใน 2Q23เป็น +6.0%สูงสุดตั้งแต่ให้บริการ ดันให้อัตรากำไรขั้นต้นรวม คาดจะเพิ่ม +130bps q-q เป็น 41.0% ยิ่งไปกว่านั้น ข้อมูลของกรมขนส่งทางรางชี้ว่า สัปดาห์แรกของเดือน ต.ค. ผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในวันธรรมดายืนสูงเป็นสถิติใหม่ 5.3-5.6 แสน/เที่ยว อีกด้วย

คงคำแนะนำ "ซื้อ":หากเป็นตามคาด กำไร 9M23 จะคิดเป็น 69.8% ของประมาณการ ขณะที่ high season กำลังมาเยือน คงประมาณการกำไรปีนี้ 3.7 พันลบ. ขยายตัว +52.1% y-y ตามเดิม โดยราคาเหมาะสมปีนี้ที่ 10.90 บาท ใช้วิธี SOTP ของการคิดลดกระแสเงินสด DCF ตามอายุสัมปทานทางด่วนสิ้นสุด (สายหลัก 2035 และ SOE 2042) รถไฟฟ้า (สีม่วง 2043, สีน้ำเงิน 2050) โดยราคาเหมาะสมนี้ไม่ได้รวม upside โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเบื้องต้น +1.50 บาท ซึ่งล่าสุดศาลฯได้ตัดสินครบทุกประเด็นสงสัยแล้ว รอเพียงรัฐบาลใหม่อนุมัติ