รีเซต

ภาพลับแตงโม-รูปอนาจาร ส่งต่อมีโทษทางกม.-คิดให้ดีก่อนแชร์

ภาพลับแตงโม-รูปอนาจาร ส่งต่อมีโทษทางกม.-คิดให้ดีก่อนแชร์
TNN ช่อง16
25 พฤษภาคม 2565 ( 17:45 )
9.7K
ภาพลับแตงโม-รูปอนาจาร ส่งต่อมีโทษทางกม.-คิดให้ดีก่อนแชร์

วันนี้ ( 25 พ.ค. 65 )จากกรณีอดีตผู้จัดการแตงโม นิดา  “กระติก อิจศรินทร์” ให้สัมภาษณ์ในรายการโหนกระแส ของหนุ่มกรรชัย ว่าได้รับสายการโทรจากไลน์แตงโม มีการเผยให้เห็นคลิปภาพลับแตงโม ขณะที่ตนเองกำลังให้สัมภาษณ์กลางวงนักข่าว ทำให้หนุ่มกรรชัยต้องเตือนไปยังแม่ของแตงโมให้รีบไปแจ้งความ 

จนกระทั่งล่าสุดทนายเดชา ได้ออกมายอมรับว่าแม่ของแตงโม เป็นคนส่งมือถือของลูกสาวไปให้ บังแจ็คที่สหรัฐอเมริกา เพราะเข้าใจว่า บังแจ็คจะช่วยเปิดเผยความจริงว่าลูกถูกทำร้ายจริงหรือไม่ ซึ่ง บังแจ็คอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโพสต์รูปที่ไม่เคยเผยแพร่ที่ไหนมาก่อนผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวของแตงโม นิดา 

ต่อมาในโลกโซเชียลมีการพูดถึง ภาพลับแตงโม ว่าค่อนข้างจะโป๊และเป็นส่วนตัวมาก อย่างไรก็ตาม รู้หรือไม่ว่าการกระทำเพื่อการส่งต่อรูปโป๊และคลิปลากมกมีความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์?

โดย ทนายรัชพล ศิริสาคร  ได้เคยให้ความรู้ผ่าน Fanpage เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2016 ว่า การแชร์รูปโป๊ ไม่ใช่กฏหมายใหม่ การแชร์รูปโป๊ ทางไลน์หรือทางเฟซบุ๊ก อาจมีความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ. คอมพ์ฯ เพราะเป็นการกระทำที่เข้าลักษณะความผิด คือ มีการเผยแพร่หรือส่งต่อภาพลามก ซึ่งประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึง

ดังนั้น การแชร์คลิปลามก หรือภาพโป๊ ต้องระวังกันหน่อย โดยเฉพาะหนุ่มๆ นะครับ

รู้แล้วแชร์ต่อได้เลย..

พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550

มาตรา 14 (4) ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

(5) ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



สำหรับกรณีโดนขู่ แฉคลิปลับ แบล็กเมล์ รีดเอาทรัพย์ สำนักงานกิจการยุติธรรม เคยให้ข้อมูลระบุไว้ว่าโดนขู่ว่าจะเอาภาพลับส่วนตัว ที่แฟนเก่าหรือผู้ใด เคยถ่ายตอนอยู่ด้วยกันไปปล่อยบนโลกออนไลน์ โดยเรียกเงินเพื่อแลกกับการที่จะไม่ทำตามคำขู่จะนำไปประจาน หากไม่ยอมทำตาม ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องอาย แจ้งความดำเนินคดีได้เลย

1.เก็บหลักฐานที่มีคนโพสต์หรือแชร์

ให้ผู้เสียหายรวบรวมพยานหลักฐานที่พบการกระทำความผิด ไม่ว่าจะมีการเผยแพร่ผ่านช่องทางออนไลน์ใดก็ตาม ให้เก็บไว้ว่าใครเป็นคนโพสต์เผยแพร่ให้ปรากฏชัดเจน ส่วนใครที่นำไปแชร์ต่อ ให้เก็บหลักฐานไว้เช่นกัน เนื่องจากมีความผิดทั้งคนโพสต์และคนแชร์

2.เก็บหลักฐานการข่มขู่

ในกรณีที่มีการแบล็กเมล์ ข่มขู่ เรียกร้องทรัพย์สินกับผู้เสียหายผ่านทางโทรศัพท์ ให้บันทึกเสียงไว้ตอนพูดข่มขู่ แต่หากพูดกันตัวต่อตัวต้องหาพยาน

กรณีนี้ มีความผิดประมวลกฎหมายอาญา  มาตรา  338  ผู้ใดข่มขืนใจผู้อื่น ให้ยอมให้ หรือยอมจะให้ตนหรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สิน โดยขู่เข็ญว่าจะเปิดเผยความลับซึ่งการเปิดเผยนั้นจะทำให้ผู้ถูกขู่เข็ญหรือบุคคลที่สามเสียหาย จนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานรีดเอาทรัพย์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท

และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2560 มาตรา 14 (4) นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ส่วนคนที่แชร์ต่อ จะมีความผิดตามมาตรา 14 (5) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (1) (2) (3) หรือ (4)

3.แจ้งความ ณ สถานีตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุ

เมื่อรวบรวมหลักฐานได้แล้วนั้น ทราบเหตุที่ใดสามารถแจ้งความท้องที่ที่เกิดเหตุได้เลย เนื่องจากสถานีตำรวจในท้องที่มีหน้าที่โดยตรงที่จะรับแจ้งความ หรือเดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษด้วยตนเองที่ บก.ปอท.

ข้อมูลจาก  : ทนายรัชพล ศิริสาคร  Fanpage/ สำนักงานกิจการยุติธรรม

ภาพจาก : AFP/ IG melonp.official

ข่าวที่เกี่ยวข้อง