หุ้น SCGD เข้าเทรดวันแรกราคาเปิดที่ 10.10 บาท ลดลง 12.17% จาก IPO
#SCGD #ทันหุ้น-หุ้นบริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด(มหาชน) หรือ SCGD เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือ SET เป็นวันแรก ราคาเปิดอยู่ที่ 10.10 บาท ลดลง 12.17% จาก IPO หุ้นละ 11.50 บาท
ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น SCGD ราคาเปิดอยู่ที่ 10.10 บาท ลดลง 1.40 บาท หรือ 12.17% จากราคา IPO ที่หุ้นละ 11.50 บาท ล่าสุดราคาเคลื่อนไหวอยู่ที่ 10.20 บาท ลบ 1.30 บาท หรือ 11.30% มีมูลค่าการซื้อขาย 138.86 ล้านบาท
SCGD เป็น flagship company ของกลุ่มปูนซิเมนต์ไทย ประกอบธุรกิจด้วยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ดำเนินธุรกิจผลิตกระเบื้องปูพื้น บุผนัง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ได้แก่ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย และธุรกิจผลิตสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ภายในห้องน้ำในประเทศไทย ภายใต้ตราสินค้าที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง อาทิ COTTO SOSUCO CAMPANA PRIME MARIWASA และ KIA โดยมีช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน ผ่านเครือข่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายต่าง ๆ ช่องทางร้านค้าปลีกสมัยใหม่ และจัดจำหน่ายผ่านเครือข่ายร้านค้าของบริษัท และส่งออกไปจำหน่ายในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินธุรกิจการให้บริการนิคมอุตสาหกรรมในอำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี
SCGD มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วหลังเสนอขายหุ้น 16,500 ล้านบาท มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปและทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดจากผู้ถือหุ้นของ บมจ. เอสซีจี เซรามิกส์ (COTTO) ด้วยวิธีแลกหุ้น IPO ของ SCGD ตามแผนการปรับโครงสร้าง โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวนรวม 439.1 ล้านหุ้น มีกำหนดจองซื้อระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน - 13 ธันวาคม 2566 ในราคาเสนอขายสุดท้ายหุ้นละ 11.50 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 5,049.65 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 18,975 ล้านบาท โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทมีแผนจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ขยายกำลังการผลิตและขยายช่องทางการจำหน่าย รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพด้านการดำเนินงานและด้านพลังงาน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิให้เป็นศูนย์ (Net Zero Carbon) ในปี 2050 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการของบริษัท
ทั้งนี้ หลัง IPO จะมีผู้ถือหุ้นใหญ่ ได้แก่ กลุ่มปูนซิเมนต์ไทย ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมรวม 73.4% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว