รีเซต

นาทีทองช้อนหุ้นไทย! เก็งกำไรตัวไหนดี รับข่าวเฟดเล็งลดดอกเบี้ย-การเมืองคลี่คลาย

นาทีทองช้อนหุ้นไทย! เก็งกำไรตัวไหนดี รับข่าวเฟดเล็งลดดอกเบี้ย-การเมืองคลี่คลาย
TNN ช่อง16
23 สิงหาคม 2568 ( 16:43 )
7

ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ทะยานขึ้น 846.24 จุด หรือ 1.89% ทำสถิติสูงสุดใหม่ ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 45,631.74 จุด   ตามติดด้วย ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.52% ปิดที่ 6,466.91 จุด และ ดัชนีแนสแด็ก Nasdaq Composite ทะยานขึ้น 1.88% ปิดที่ 21,496.53 จุด เด้งรับข่าว “เจอโรม พาวเวลล์”  ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของธนาคารกลางที่เมืองแจ็กสันโฮล ส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มผ่อนคลายนโยบายการเงินในการประชุมเดือนก.ย.นี้ หนุน  ราคาหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ขนาดใหญ่พุ่งขึ้น   โดยหุ้น Nvidia เพิ่มขึ้น 1.7% หุ้น Meta Platforms เพิ่มขึ้นกว่า 2% หุ้น Alphabetหุ้น Amazon ขึ้นกว่า 3%  และหุ้น Tesla พุ่งแรง 6%

 ขณะที่อุณหภูมิทางการเมืองเริ่มลดความร้อนแรง หลังศาลอาญามีคำพิพากษายกฟ้อง "นายทักษิณ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี คดีมาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกาหลีใต้เมื่อปี 2558  หนุนดัชนีวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา ปิดที่ระดับ  1,253.39 จุด เพิ่มขึ้น 8.60 จุด  หรือ +0.69% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 37,999.28 ล้านบาท หลัง ร่วงลงแรงช่วงต้นสัปดาห์เหตุสิ้นสุดช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/68  

โดยแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าจะดีดขึ้นร้อนแรงมากแค่ไหน หลังรับข่าวบวกจากปัจจัยภายนอก และภายในประเทศ   ในวันนี้ TNN Online พาไปไขคำตอบจากกูรูตลาดทุนกันค่ะ

เริ่มจาก “ภราดร เตียรณปราโมทย์”  ผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส ฉายภาพว่า ข่าวที่เกิดขึ้นทั้ง 2 เหตุการณ์เป็น sentiment เชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทย  โดยเฉพาะนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดไม่เคยให้แนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยมาก่อน ดังนั้นการส่งสัญญาณรอบนี้ชัดเจนว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ หนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นร้อนแรง ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง 1% ดันเงินบาทกลับมาแข็งค่าจะช่วยให้ฟันด์โฟลว์ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยเพิ่มขึ้น 

โดยวัฎจักรดอกเบี้ยขาลงแนะนำหุ้นกลุ่มไฟแนนซ์ เช่น MTC , SAWAD หุ้นปันผลสูง เช่น  ICHI , SPALI  หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากเงินบาทแข็งค่า เช่น SCC , ADVANC , CPALLCRC



หากย้อนอดีตเหตุการณ์ทางการเมืองที่สำคัญ จากประเด็นที่เร่าร้อนกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ แต่เมื่อเข้าสู่สถานการณ์คลี่คลาย  หลังเหตุการณ์ศาลตัดสินผู้นำ   SET INDEX  จะปรับตัวขึ้นแรงเฉลี่ยระดับ 10.3% ใน 2 เดือนหลังจากนั้น เช่น กรณีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่เกิดขึ้นในปี 66  ที่ศาลตัดสินให้นายพิธา หยุดปฏิบัติหน้าที่ในการเป็น  ส.ส.และโหวตการเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ผ่าน หลังจากนั้น 49 วันหุ้นขึ้น 5.7%

จากนั้นวันที่  14 ส.ค. 67  ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินให้ "เศรษฐา ทวีสิน" พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ปมตั้ง "พิชิต ชื่นบาน" เป็นรัฐมนตรี  หลังจากนั้น 66 วันหุ้นขึ้น 14.8% เนื่องจากมีความชัดเจนด้านการเมือง  

จากสถิติในอดีตหุ้นที่ปรับตัวได้ดีเป็นกลุ่มไฟแนนซ์  เช่น   MTC 23% ราคาเป้าหมาย 45 บาท กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เช่น CK ขึ้น 13%ราคาเป้าหมาย 21 บาท หุ้นค้าปลีก เช่น  CRCขึ้น 19% ราคาเป้าหมาย 21.10 บาท และหุ้นมีเดีย เช่น PLANB ขึ้น 17% ราคาเป้าหมาย 8 บาท

นอกจากนี้จากข้อมูลของสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนปรับตัวเพิ่มขึ้นทุกกลุ่ม ทั้งนักลงทุนสถาบัน ต่างชาติ และในประเทศ ขณะที่การระดมทุน  IPO (Initial Public Offering)  โดยเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก เพื่อระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น จากต้นปี-ปัจจุบันมี 6 บริษัท เช่น  บมจ.การบินไทย และ บมจ.โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งปกติจะมี 30-34 บริษัท ซึ่งถ้ามีบริษัทเข้าระดมทุนในตลาดฯเพิ่มจะหนุน SET ดีดปรับตัวขึ้น

โดยดัชนีหุ้นไทย Outperform มากกว่าหุ้นโลก ประเมินแนวรับที่ 1,230 จุด แนวต้านที่แรก 1,280 จุด แนวต้านถัดไปที่  1,300 จุด


ส่วนตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้าแกว่งไซด์เวย์อัพ  แรงหนุน 2 ปัจจัยดังกล่าวข้างต้น และฟุตซีรีบาลานซ์หุ้นไทย   คาดว่าหุ้นไทยถูกปรับเพิ่มน้ำหนักในการคำนวณดัชนี หลังในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาหุ้นไทยขึ้น 14% หุ้นโลก 3% และมีงานไทยแลนด์โฟกัส 27-28 ก.ย.นี้ ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนเข้ามาสมัครเบื้องต้น 76 บริษัท คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และจะเรียกความเชื่อมั่นให้นักลงทุนกลับคืนมา รวมถึงติดตามตัวเลขส่งออกเดือนก.ค.คาดว่าอยู่ที่ 9.6% นำเข้าอยู่ที่ 4.5%  และศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีปมคลิปเสียง สนทนา “ฮุนเซน” และจับตา "ทักษิณ" คดีชั้น 14 วันที่ 9 ก.ย.นี้   

ฝั่งฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์" AISA, CFTe ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรี มองว่า  หลัง “พาวเวลล์”  ส่งสัญญาณผ่อนคลายทางการเงินในฝั่งสหรัฐ เป็นปัจจัยบวกต่อ กระแสเงินทุนไหลเข้า Emerging Markets (EM) โดยเฉพาะเอเชีย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯมีโอกาสกลับสู่ขาลงอีกครั้ง ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าจะเป็นปัจจัยหนุน ค่าเงินบาทแข็งขึ้น ลดแรงกดดันเงินเฟ้อไทย และเปิดโอกาสให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คุมดอกเบี้ยต่ำได้ยาว

ทั้งนี้หากอิงสถิติในอดีต  SET Index ช่วงที่มีสถานการณ์การเมืองสำคัญ 1.  อดีตนายก "ทักษิณ ชินวัตร"  ประกาศยุบสภา ม.ค. - ก.พ. 2006  2. ตุลาการภิวัฒน์ (ศาลตัดสินผลการเลือกตั้งไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ) พ.ค. - มิ.ย.2006  3.รัฐประหาร 19 ก.ย. 2006

 

4. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา 21 เม.ย. – 6 พ.ค.2011  5.น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภา 8 ต.ค.2013- 3 ม.ค.2014   6. รัฐประหาร 22 พฤษภาคม 2014  พบว่า สถิติผลตอบแทนตลาดหุ้นไทย Maximum  Drawdown หรือ ( ช่วงลดสูงสุด) เฉลี่ย - 9.2% (รอบนี้ -2.5%)    หากดูในอดีตหลังผ่านพ้นไปได้มองตลาดหุ้นมักจะปรับขึ้น  อิงรอบ ล่าสุด คือ สิ้นเดือน พ.ค. 2014  SET อยู่บริเวณ 1,415 จุด และปรับขึ้นต่อเนื่องในช่วง 4 เดือนจากนั้น และเริ่มออกข้าง ปรับขึ้นรวมราว 12.4%


ส่วนตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า  ดีดปรับตัวขึ้น   โดยมี Fund Flow เป็นตัวเร่ง ประเมินแนวต้านแรกที่   1,270 จุด แนวต้านถัดไปที่ 1,283 จุด  แนวรับแรกที่ 1,240 จุด แนวรับถัดไปที่ 1,228 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามหลัก ๆ คือต่างประเทศ    

  • รายงานเงินเฟ้อ PCE สหรัฐ ซึ่งจะมีผลต่อการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed ในช่วงที่เหลือของปี โดยตามเงินเฟ้อ PCE พื้นฐาน ก.ค. คาด +0.3%m-m, +2.9%y-y   หากออกมาสูงกว่าคาดจะกดดันสินทรัพย์เสี่ยงและ SET Index  
  • ฝั่งจีน 28 ส.ค. ติดตามการประกาศกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรม ก.ค. คาด -1.8%y-y ytd เท่าเดือนก่อน หากออกมาต่ำคาดมองเป็นปัจจัยหนุนให้รัฐบาลและธนาคารกลางจีนออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม 

 ภายในประเทศติดตาม

 23-24 ส.ค. เทศกาลดนตรี Summer Sonic Bangkok ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 ประเมินจิตวิทยาบวกต่อหุ้นอิงภาคบริการ 

  •  25 ส.ค. ยอดส่งออก - นำเข้า ก.ค. 25 ตลาดคาด +10%y-y และ +4.9%y-y vs prev. +15.5%y-y และ +13.1%y-y
  • 25 ส.ค. เปิดลงทะเบียน 'รถไฟฟ้า 20 บาท' ตลอดสาย ผ่านแอปฯ ทางรัฐ
  • 26 ส.ค. MSCI Rebalance มีผลราคาปิด 26 ส.ค. MSCI Standard index (Large+Mid cap)
  • 27-29 ส.ค. งาน Thailand Focus
  • 29 ส..ค ศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยคดีคลิปเสียงนายกฯ   ในอดีตกรณีช่วงมีเหตุการณ์การเมืองหุ้นไทยมักจะผันผวน นักลงทุนมักจะ Wait & See รอดูความชัดเจน  KSS มองเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม โดยมองแนวรับสำคัญ 1240/1228 จุด   กรณี Worst Case คือ 1200 จุด มองดัชนีหุ้นไทยสะท้อนความเสี่ยงการเมืองไปพอสมควร และ ตลาดหุ้นไทยอยู่โซนล่าง เทียบกับประเทศอื่นๆต่างประเทศที่อยู่โซนบน   และเรื่องสำคัญคือ งบประมาณปี 2569 ที่อยู่ในการพิจารณาของ สว.  ถ้าสะดุด SET อาจจะจะมีกรอบถอยระยะสั้น

ด้านกลยุทธ์การลงทุน หากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้ต่ำ รอดูความชัดเจนการเมืองก่อน  แต่หากรับความเสี่ยงได้สูง แนะนำเน้นหุ้นเน้นหุ้นกลุ่ม Global Play และกลุ่ม Defensive และมีปัจจัยบวกเฉพาะ  

หุ้นเด่นสัปดาห์แนะนำ

  • หุ้น PTT ราคาเป้าหมาย 34.75 บาท 
  • หุ้น BDMS ราคาเป้าหมาย 33.0 บาท

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง