VGI ชี้ผลงานครึ่งปีหลังฟื้น BTS ต่อยอดธุรกิจอัพไซด์
ทันหุ้น –สู้โควิด- VGIผลงานครึ่งปีหลัง 2563/64 (ต.ค.63-มี.ค.64) กลับมาสดใส หลังคลายล็อกดาวน์ หนุนธุรกิจฟื้นตัวเด่น ขณะที่ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลเติบโตดีสอดคล้องพฤติกรรมลูกค้าที่เปลี่ยนไป ด้านโบรกมองมี upside อีกจากการที่รถไฟฟ้า BTS ขยายเส้นทางใหม่ๆเพิ่มเติม เป้า 8.30 บาท
แหล่งข่าววงในอุตสาหกรรม กล่าวถึง บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ VGI ว่า ทิศทางธุรกิจสื่อ OOH ซึ่งเป็นธุรกิจหลักในช่วงครึ่งปีหลังของงบปี 2563/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) เชื่อว่าจะมีการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลักๆ เป็นผลมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เริ่มทรงตัว ทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นกลับมาใช้ชีวิตนอกที่พักอาศัยมากขึ้น รวมถึงการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ ของทางภาครัฐ ทำให้กลุ่มลูกค้าทยอยลงทุนด้านกิจกรมส่งเสริมการขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก
นอกจากนี้ ด้วยกระแสความนิยมวิถีชีวิตแบบดิจิทัลที่ต้องยอมรับว่าวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมาเป็นตัวเร่งสำคัญ ช่วยหนุนธุรกิจบริการด้านดิจิทัล ให้มีการเติบโตที่สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีการเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะการชำระเงินในรูปแบบออนไลน์ที่มีจำนวนธุรกรรมบนช่องทางออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันจากการปลดล็อกดาวน์ยังช่วยส่งผลบวกผู้บริโภคหันกลับมาใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางได้มากขึ้น ส่งผลบวกต่อยอดขายของ Rabbit Line Pay ได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ขณะธุรกิจโลจิสติกส์นั้น มีการเติบโตที่ค่อนข้างก้าวกระโดดเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากการล็อกดาวน์ทำให้ผู้บริโภคถูกจำกัดการเดินทางจึงหันมาพึ่งการสั่งสินค้าทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้ความต้องการการขนส่งสินค้าโดยเฉพาะภาคพื้นดินมีการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นและยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
เป้าพื้นฐาน 8.30บ.
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คาดว่า VGI จะมีกำไรหลักในไตรมาส 2/2563/64 (ก.ค.-ก.ย. 63) อยู่ที่ 18 ล้านบาท ดีขึ้นจากที่ขาดทุนหลัก 104ล้านบาทในไตรมาส 1/2563/64 (เม.ย.-มิ.ย.63) แต่ลดลงจากที่เคยมีกำไรหลัก 355 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2562/63 โดยคาดว่าผลประกอบการที่ฟื้นตัวขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าในไตรมาส 2/2563/64 จะมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นเป็น 597 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อนหน้า จากการฟื้นตัวของทั้งสื่อนอกบ้าน (OOH)
และบริการด้านดิจิทัลจากการที่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นเป้าหมายผู้ชมสื่อของ VGI เพิ่มขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการ lockdown รวมถึงการที่มีค่าธรรมเนียมในการออกบัตรใหม่ของแรบบิทการ์ด เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน ทั้งนี้ ทางฝ่ายคาดว่ากำไรหลักจะลดลง 43%เมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนเนื่องจากรายได้ลดลง ถึงแม้ทางฝ่ายจะคาดว่า VGI มีผลขาดทุนหลักในช่วงครึ่งแรกงบปี 2563/64 (เม.ย.-ก.ย.63) อยู่ที่ 86 ล้านบาท
แต่ยังคงประมาณการกำไรหลักปี 2563/64 (เม.ย.63-มี.ค.64) เอาไว้ที่ 181 ล้านบาท (-87%เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน) เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของงบปี 2563/64 (ต.ค.63-มี.ค.64) สำหรับในปี 2564/65 (เม.ย.64-มี.ค.65) โดยคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่าจะโตถึง 383% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เป็น 871 ล้านบาท เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการใช้จ่ายซื้อสื่อโฆษณา รวมถึงสื่อ OOH ที่เป็นธุรกิจหลักของ VGI ด้วย
รวมทั้งกระแสความนิยมวิถีชีวิตแบบดิจิทัลช่วยหนุนธุรกิจบริการด้านดิจิทัลของบริษัท นอกจากนี้ยังได้รับส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากธุรกิจด้านขนส่ง เป็นต้น ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2564/65 ที่ 8.30 บาท