สหราชอาณาจักรเสียชีวิตเพิ่มอีกวันเดียว 563 ราย
วันนี้ ( 2 เม.ย. 63 )กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการสังคม หรือดีเอชเอสซี (DHSC) ของสหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตรายวันจากไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 563 รายเมื่อวันพุธ ถือว่าเป็นสถิติรายวันสูงสุด รวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ เป็น 2,352 ราย ซึ่งจนถึงวันที่ 1 เมษายน สหราชอาณาจักร มีผู้ติดเชื้อทั่วประเทศแล้ว 29,474 ราย แต่สถิติของดีเอชเอสซี นับเฉพาะผู้เสียชีวิตที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาลเท่านั้น
สถิติล่าสุดนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางข้อกล่าวหาว่า รัฐบาลสหราชอาณาจักร ล้มเหลวในการตรวจร่างกายประชาชนหาเชื้อไวรัส ซึ่งไม่ดำเนินการอย่างรวดเร็วเพียงพอ สำหรับบุคลากรด้านสาธารณสุขที่อยู่ด่านหน้าและประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ด้วย โฆษกของ
สำนักนายกรัฐมนตรีบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง สตรีท เปิดเผยเมื่อวันพุธว่า มีเจ้าหน้าที่สำนักงานบริการสาธารณสุขแห่งชาติ หรือเอ็นเอชเอสประมาณ 2,000 คนเท่านั้นที่ผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในอังกฤษ จากเจ้าหน้าที่เอ็นเอชเอสที่ทำงานเต็มเวลา 1.3 ล้านคน
ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับผู้เสียชีวิต แสดงให้เห็นว่า อัตราการเสียชีวิตจากโควิด-19 ในสหราชอาณาจักร กำลังเพิ่มขึ้นมากกว่าอิตาลี เมื่อเทียบในระดับเดียวกันของการระบาด เนื่องจากประชาชนบางส่วนไม่ได้ให้ความร่วมมือกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ social distancing อย่างเคร่งครัดของรัฐบาล ซึ่งก็ทำให้อัตราการเสียชีวิตในสหราชอาณาจักร เป็นตัวเลขที่ “น่าตระหนกตกใจ”
รัฐบาลสหราชอาณาจักรตั้งเป้าตรวจหาเชื้อไวรัสให้ประชาชน 25,000 รายต่อวันภายในสิ้นเดือนเมษายน อย่างไรก็ตาม ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า รัฐบาลไม่ปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาในการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยโจน แอชเวิร์ธ รัฐมนตรีเงากระทรวงสาธารณสุขของพรรคแรงงาน ฝ่ายค้าน กล่าวกับสกายนิวส์ โจมตีรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันว่า รัฐบาลล้มเหลวไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อนว่าจะตรวจหาเชื้อไวรัสให้ได้ 70,000 รายต่อสัปดาห์
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNThailand
Youtube Official : TNNThailand