สภานายจ้างคาด ปรับขึ้นค่าแรง 3-4%แน่ต้นปี 66
ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย (ECOT) หรือนายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เปิดเผยว่า สำหรับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำควรจะอยู่ในระดับที่เหมาะสม คาดว่าถ้าปรับในระดับ 3-4% สามารถปรับขึ้นได้และมีความเป็นไปได้ในระดับที่ไม่สูงมากนัก หากขึ้นระดับสูงผู้ประกอบการจะเดือดร้อน เพราะธุรกิจไม่สามารถดำเนินการได้ต่อได้ และจากการแสข่าวอัตราค่าจ้างจะประขึ้นระดับ 5-8% ต้องดูตามความเหมาะสม ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการไตรภาคีกำลังหารือและพิจารณาถึงตัวเลขที่เหมาะสมอยู่
เพราะฉะนั้นตัวเลขที่จะออกมาต้องเหมาะสม และมองว่าอัตราค่าแรงงานที่เตรียมปรับขึ้น 5-8% เป็นการกรอบอัตราที่ค่อนข้างสูง ถ้ามองกลางๆ 3-5% ค่อนข้างเหมาะสม อีกทั้ง ไม่อยากให้มองเรื่องค่าแรงเป็นหลัก อยากให้มองเรื่องการทำงานที่ดีขึ้นสำหรับการทำงานมากกว่า
ทั้งนี้ การพิจารณาการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้กำหนดพื้นที่นำร่อง ได้แก่ พื้นที่จังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล พื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีกิจกรรมทางเศรษฐกิจสูง
ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในเดือนตุลาคมนี้ ในความคิดเห็นส่วนตัวมองว่ายังปรับขึ้นได้ยาก เนื่องจากประเมินด้วยขั้นตอนกระบวนการทำงานของไตรภาคีจนถึงการเสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการมีมติออกมาอาจต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร อีกทั้งได้คำนึงถึงภาคธุรกิจที่ได้การกำหนดงบประมาณไว้สำหรับบริหารจัดการในธุรกิจไว้ก่อนแล้ว ซึ่งต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากค่าแรงขั้นต่ำที่อาจจะมีการปรับขึ้นจะเป็นผลกระทบที่ทำให้ภาพธุรกิจหยุดชะงักในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าการปรับค่าแรงขั้นต่ำจะสามารถประกาศใช้ได้ในช่วงต้นปี 2566 ประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์
ข้อมูลจาก : TNN ONLINE
ภาพจาก : TNN