เหล่าผู้นำยุโรปเยือนยูเครน ต่อสายตรงหาทรัมป์ ขีดเส้นตายรัสเซียหยุดยิง 30 วัน

ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ผู้นำจาก เยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และโปแลนด์ ได้เรียกร้องให้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย เห็นชอบกับ ข้อตกลงหยุดยิงนาน 30 วัน โดยจะเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่จะถึงนี้ (12 พ.ค.) มิฉะนั้นจะเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ ซึ่งคำเรียกร้องนี้ได้รับ ารสนับสนุนจากทำเนียบขาว หลังการโทรศัพท์หารือร่วมกับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ
โดยผู้นำทั้ง 4 คน คือ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีเฟรเดอริค เมิร์ซ ของเยอรมนี, นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักร และ นายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ด้แถลงข่าวร่วมกับ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ที่กรุงเคียฟ โดยแถลงว่า ตกลงร่วมกันว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคมนี้ จะต้องมีการหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วัน ซึ่งการหยุดยิงครอบคลุมทั้งทางบก ทางทะเล และทางอากาศ โดยหากสามารถดำเนินการได้สำเร็จ มาครงระบุว่า จะนำไปสู่การเปิดเจรจาสันติภาพที่มั่นคงและยั่งยืน
ในบทสัมภาษณ์พิเศษกับ CNN ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย กล่าวว่า รัสเซียไม่ยอมตกอยู่ภายใต้แรงกดดันใด ๆ แม้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะสนับสนุนแนวคิดการหยุดยิงในหลักการ แต่ยังมีข้อกังวลหลายประการที่ต้องชี้แจงก่อน โดยเขาไม่ได้อธิบายว่าเป็นประเด็นใด
หลังจากนั้น ผู้นำทั้งหมดได้ร่วมโทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของยูเครนระบุว่า การสนทนา “ได้ผลดี” ขณะที่เซเลนสกีบอกว่า “เป็นบวกและมีเนื้อหาเป็นรูปธรรม”
ทรัมป์ยังแสดงความไม่พอใจต่อรัสเซียผ่านโพสต์บน Truth Social โดยเตือนว่า หากรัสเซียไม่เคารพข้อตกลงหยุดยิง “สหรัฐฯ และพันธมิตรจะใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม”
ด้านยูเครนแฉรัสเซียยังคงโจมตี แม้ประกาศหยุดยิงเฉพาะกิจ
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ประกาศหยุดยิงฝ่ายเดียวเพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ยูเครนรายงานว่า ยังคงมีการโจมตีตามแนวหน้าอยู่หลายร้อยครั้ง