เชือด 3 พนง.อคส. เอี่ยวทุจริตซื้อถุงมือยางเทียม ลุ้น30วันรู้ไล่ออกหรือให้ออก

ที่กระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า(อคส.) พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า ในฐานะประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงการจัดซื้อถุงมือยาง เข้าพบ ว่า นายเกรียงศักดิ์ ได้รายงานความคืบหน้าของการสอบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดในกรณีการจะซื้อถุงมือยางเทียมของอคส. โดยคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่จัดตั้งขึ้นตามระเบียบ อคส. ว่าด้วยการดำเนินการทางวินัยของพนักงานปี 2561 ได้เสร็จสิ้นแล้ว
และ มีมติ 3 ข้อ คือ 1.ได้ข้อสรุปว่ามีผู้กล่าวหา 3 คน ที่มีมูลว่ามีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง จึงเห็นควรตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรง ซึ่งจะมีโทษสูงสุดถึงไล่ออกหรือให้ออก 2.คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง พบความเสียหายที่ก่อให้เกิดกับองค์การคลังสินค้าประกอบ ด้วยเงินจำนวน 2,000 ล้านบาท บวกดอกเบี้ย และบวกความเสียหายอื่นๆ จึงเห็นควรตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงการกระทำผิดทางละเมิดตามพระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ปี 2539 และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ปี 2539 และ 3.เห็นควรส่งผลการสืบสวนข้อเท็จจริงไปยัง ป.ป.ช. เพื่อประกอบการพิจารณาในการไต่สวนคดีจัดซื้อถุงมือยางเทียมของ อคส.ต่อไป
” ผมได้กำชับและสั่งการว่าให้เร่งดำเนินการตามความเห็นของคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงให้บังเกิดผลต่อไปโดยเร็วที่สุด เพื่อแจ้งให้สาธารณะรับทราบว่า อคส.มีความตั้งใจในการหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว เรื่องนี้ผมจะไม่ปล่อยไว้ใครกระทำความผิดและเกี่ยวข้องกับการกระทำที่มิชอบจะจัดการโดยเด็ดขาด ทั้งเรื่องทางวินัย ทางแพ่ง หรือทางอาญา และกำชับให้ผู้อำนวยการ อคส.ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการทุกชุดที่ชอบด้วยกฎหมายให้เต็มที่ เพื่อให้สามารถหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้โดยเร็วที่สุด และ เพื่อให้ชดใช้ความเสียหายที่เกิดกับ อคส.ให้ได้เร็วที่สุด ”
นายจุรินทร์ กล่าวว่าในส่วนผู้เกี่ยวข้องที่มีตำแหน่งสูงกว่าพนักงานในอคส. ได้ส่งเรื่องให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทำการไตร่สวนข้อเท็จจริงและดำเนินการเอาผิดเมื่อสอบพบการกระทำผิด
ด้านนายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการ องค์การคลังสินค้า(อคส.) กล่าวว่า ได้มีการรวบรวมสำนวนข้อเท็จจริงกว่า 900 หน้าส่งถึงสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และในวันที่ 22 มีนาคม ตนจะออกคำสั่งในการแต่งตั้งคณะกรรมการต่างๆตามที่ได้รับความเห็นชอบ โดยมีกำหนดสอบวินัยอย่างร้ายแรงภายใน 30 วัน และ คณะกรรมการกระทำผิดการละเมิด ภายใน 60 วัน ส่วนจำนวนเงินเรียกคืนจะรวมทั้งเงินฝากที่ถูกถอนไป 2,000 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยฝากประจำในขณะนั้น 2% ต่อปี และค่าเสียโอกาสอื่นๆ ซึ่งจำนวนรวมเท่าไหร่ขึ้นกับดุลพินิจของศาลแพ่งและศาลอาญา
ทั้งนี้ พ.ต.อ.สุรพงศ์ ระบุว่า ข้อมูลพยานหลักฐานขณะนี้ เพียงพอที่สามารถพิจารณาว่ามีมูลความผิดวินัยร้ายแรงได้ตามที่รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์