น้ำท่วม “เท็กซัส” อ่วม น้ำท่วมคร่าชีวิต 119 ราย ยังสูญหายเกือบ 200 ราย

สถานการณ์อุทกภัยครั้งรุนแรงในรัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกาเริ่มเผยให้เห็นความเสียหายที่ชัดเจน หลังจากผู้ว่าการรัฐเกร็ก แอ็บบอตต์ แถลงเมื่อค่ำวันอังคารว่า ขณะนี้ยังคงมีผู้สูญหายอย่างน้อย 173 คน โดยส่วนใหญ่เป็นประชาชนในเคอร์เคาน์ตี้ (Kerr County) พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากน้ำหลากที่ซัดพัดบ้านเรือน ยานพาหนะ และถนนหลายสายจนพังยับเยิน

ยอดผู้เสียชีวิตทั่วทั้งรัฐล่าสุดอยู่ที่ 119 ราย แต่ตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกมาก เนื่องจากยังไม่มีการพบผู้รอดชีวิตเพิ่มเติมตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และในหลายพื้นที่ การค้นหากำลังเปลี่ยนจาก “ภารกิจช่วยชีวิต” ไปสู่ “ภารกิจค้นหาผู้สูญหาย” ซึ่งเจ้าหน้าที่เรียกว่าเป็น “งานที่หนักหนาและสะเทือนใจ” ด้านผู้ว่าฯ แอ็บบอตต์ ลงพื้นที่เคอร์เคาน์ตี้อีกครั้งเมื่อวันอังคารเพื่อประเมินสถานการณ์ พร้อมย้ำว่า “เราจะไม่ยอมถอย จนกว่าทุกคนที่สูญหายจะได้รับการค้นพบ”

ด้านสำนักงานนายอำเภอเคอร์เคาน์ตี้ระบุว่า ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่หลายร้อยนาย ทั้งจากภาคพื้นดิน อากาศ น้ำ รวมถึงทีมสุนัขค้นหา และกองกำลังพิทักษ์ชาติเข้าร่วมในปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลือ โดยสามารถอพยพประชาชนกว่า 500 คนออกจากพื้นที่เสี่ยงได้แล้ว

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำประกาศภาวะภัยพิบัติร้ายแรง (Major Disaster Declaration) สำหรับเคอร์เคาน์ตี้ พร้อมโพสต์ข้อความว่า “นี่คือโศกนาฏกรรมที่ครอบครัวจำนวนมากกำลังเผชิญ ทั้งการสูญเสียคนรักและความไม่แน่นอน เรากำลังร่วมมือกับผู้นำท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด”

ตามรายงานของ AccuWeather ความหายนะเริ่มขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม แม้ว่าจะมีการประกาศเตือนภัยล่วงหน้าเกือบ 12 ชั่วโมง แต่ช่วงที่ฝนตกหนักที่สุดเกิดขึ้นเวลาประมาณ 04:00-04:30 น. ขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่นอนหลับอยู่ พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอยู่ในเขต “Flash Flood Capital” หรือพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลันที่สุดในสหรัฐฯ โดยลักษณะภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน และมีลำธารตื้นใกล้พื้นที่อยู่อาศัย ทำให้เมื่อเกิดฝนตกหนัก น้ำจะไหลบ่าเข้าท่วมพื้นที่ต่ำอย่างรวดเร็ว

ข้อมูลจากสถานีวัดระดับน้ำใกล้เมืองฮันต์ (Hunt) ชี้ว่า แม่น้ำกัวดาลูเป (Guadalupe River) มีระดับน้ำเพิ่มขึ้น 22 ฟุตในเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง และขึ้นไปสูงสุดที่ 29.5 ฟุต ก่อนที่เครื่องวัดจะหยุดทำงานจากความรุนแรงของกระแสน้ำ

หนึ่งในสถานที่ที่ได้รับผลกระทบหนักคือ Camp Mystic ค่ายฤดูร้อนสำหรับเด็กผู้หญิง ซึ่งน้ำหลากซัดกระท่อมพักพังราบเป็นหน้ากลอง มีเด็กจำนวนมากที่ยังไม่ทราบชะตากรรม ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยอย่าง สก็อตต์ รัสแคน จากหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ซึ่งเข้าช่วยเหลือเด็กๆ ในเช้าวันศุกร์ เล่าว่า “เราอพยพเด็กออกมาได้ 165 คน… พวกเขากำลังเผชิญวันที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต บางคนยังไม่รู้ว่าเพื่อนหรือคนในครอบครัวอยู่ที่ไหน บางคนยังคงสูญหาย”

หน่วยงานพยากรณ์อากาศ ระบุว่า อาจเกิดฝนและพายุฝนฟ้าคะนองอีกในสัปดาห์นี้ แม้ปริมาณฝนจะไม่หนักเท่าครั้งก่อน แต่ความชื้นสูงอาจกระตุ้นให้เกิดพายุซ้ำในบางพื้นที่ ซึ่งสภาพอากาศที่ไม่แน่นอนจะส่งผลต่อภารกิจค้นหา โดยเฉพาะปรากฏการณ์ฟ้าผ่าซึ่งอาจทำให้ต้องหยุดปฏิบัติการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย

จากการประเมินเบื้องต้น คาดว่าความเสียหายทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์นี้จะอยู่ระหว่าง 18,000 – 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 660,000 – 800,000 ล้านบาท) ครอบคลุมทั้งค่าช่วยเหลือผู้ประสบภัย การซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน การจ่ายค่าสินไหมทดแทน และผลกระทบด้านการท่องเที่ยวในอนาคต นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องประกันภัยน้ำท่วม โดยปัจจุบันมีเพียงราว 4% ของเจ้าของบ้านในสหรัฐฯ เท่านั้นที่มีประกันน้ำท่วมจากโครงการแห่งชาติ ขณะที่ความเสียหายจากน้ำมักไม่ได้อยู่ในความคุ้มครองของประกันภัยบ้านทั่วไป ทำให้หลายครอบครัวอาจต้องรับภาระค่าใช้จ่ายมหาศาลด้วยตนเอง