'บิ๊กเพอร์เฟค' แนะรัฐใช้มาตรการการเงินแก้ปัญหาเศรษฐกิจ แทนแจกผ่าน 'คนละครึ่ง' ชี้ฟื้นตัวเร็ว หนี้ไม่สูญ

เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2565 จะฟื้นตัวหรือไม่ขึ้นอยู่กับ 1.การจัดการบริการการระบาดโควิด-19 ให้มีความชัดเจน พร้อมเปิดประเทศและให้ประชาชนใช้ชีวิตอยู่กับโควิดได้ เพราะปัจจุบันยังไม่เห็นนโยบายที่ชัดเจน 2.มาตรการด้านการท่องเที่ยวให้ฟื้นตัวให้ได้โดยเร็ว 3.มาตรการด้านการเงิน อยากให้รัฐใช้มาตรการการเงินประมาณ 1 ล้านล้านบาท ในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจทั้งระบบมากกว่ามาตรการการคลัง อย่างที่รัฐดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เช่น มาตรการคนละครึ่ง ที่นำเงินมาอัดฉีดปลายทาง ทำให้เกิดภาระงบประมาณเกินเกณฑ์ที่กำหนด

“หากใช้มาตรการการเงินจะทำให้เศรษฐกิจปีนี้ฟื้นตัวเร็วขึ้น เพราะเป็นมาตรการที่จะทำให้ภาคธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี มีสภาพคล่อง สามารถขับเคลื่อนธุรกิจ ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมเดินหน้า ที่สำคัญจะเกิดผลมากกว่า ซึ่งมาตรการการเงินทางญี่ปุ่นและในยุโรปนำมาใช้กันในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเป็นมาตรการที่แก้ปัญหาตรงจุด ฟื้นได้เร็ว เกิดการจ้างงาน เงินที่รัฐอัดไปจะไม่ทำให้เกิดหนี้สูญ”

นายศานิตกล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์เงินเฟ้อ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องของต้นทางคือราคาน้ำมันที่ผันผวน กระทบต่อตุ้นทุนอื่นเพิ่มขึ้นตาม ต้องแก้ปัญหาที่ต้นทางคือลดภาษีสรรพสามิตเพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการลดภาษีลงแล้ว หากแก้ตรงนี้ได้จะทำให้ราคาสินค้าไม่ปรับเพิ่มขึ้นเร็วมากนัก