กกต.แจ้งคุณสมบัติผู้สมัครนายก อบต.-ส.อบต. ชี้หากผู้ใดขาดคุณสมบัติแต่ยังลงสมัคร เจอโทษหนัก
กกต.แจ้งคุณสมบัติผู้สมัครนายก อบต.-ส.อบต. ชี้หากผู้ใดขาดคุณสมบัติแต่ยังลงสมัคร เจอโทษหนักทั้งจำและปรับ เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติเห็นชอบในหลักการตามแผนการจัดการเลือกตั้ง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (ส.อบต.) และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (นายก อบต.) และกำหนดให้มีการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 28 พฤศจิกายน ซึ่งตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 49 และมาตรา 51 กำหนดคุณสมบัติของผู้สมัครรับเลือกตั้งและการยื่นหลักฐานเอกสารประกอบการสมัคร รวมถึงค่าธรรมเนียมการสมัครไว้
ประกอบด้วย คุณสมบัติผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง คือมีสัญชาติไทยโดยการเกิด ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีนับถึงวันเลือกตั้ง ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 35 ปี นับถึงวันเลือกตั้ง มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลที่สมัครรับเลือกตั้งในวันสมัครรับเลือกตั้ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 1 ปีนับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ต้องสำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า หรือเคยเป็นสมาชิกสภาตำบล สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือสมาชิกรัฐสภา
ส่วนการสมัครรับเลือกตั้ง ให้ผู้สมัครยื่นใบสมัครต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนตำบล พร้อมทั้งหลักฐานการสมัครและค่าธรรมเนียมการสมัคร ประกอบด้วย ใบสมัครรับเลือกตั้งตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/1 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวก หรือรูปภาพที่พิมพ์ชัดเจนเหมือนรูปถ่ายของตนเอง ขนาดกว้างประมาณ 8.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 13.5 เซนติเมตร ตามจำนวนที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การองค์การบริหารส่วนตำบลกำหนด สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน ใบรับรองแพทย์ หลักฐานการศึกษา หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเป็นเวลาติดต่อกัน 3 ปี นับถึงปีที่สมัครรับเลือกตั้ง เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี ตามแบบ ส.ถ./ผ.ถ. 4/2
ทั้งนี้ ผู้ที่จะสมัครรับเลือกตั้งสามารถขอคัดสำเนาหลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาย้อนหลัง 3 ปี ได้ที่สำนักงานสรรพากรเขตพื้นที่ในจังหวัดที่สมัครรับเลือกตั้ง หลักฐานอื่นที่ผู้สมัครนำมาแสดงว่าตนเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วน และไม่มีลักษณะต้องห้ามที่มิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น และ พ.ร.บ.สภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล ส่วนค่าธรรมเนียมการสมัครรับเลือกตั้ง สำหรับสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 1,000 บาท นายกองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 2,500 บาท
อย่างไรก็ตาม การสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้ว่าตนเองขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัคร มีโทษตามมาตรา 120 ที่บัญญัติว่า ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี