อิสราเอลจะอนุญาตให้นำอาหารขั้นพื้นฐานสู่กาซา แก้วิกฤตขาดแคลนอาหาร

สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ออกแถลงการณ์ว่า อิสราเอลจะอนุญาตให้นำปริมาณอาหารขั้นพื้นฐานเข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดวิกฤตขาดแคลนอาหารขั้นรุนแรง หลังจากที่กองกำลังป้องกันตนเองอิสราเอล (IDF) หรือ กองทัพอิสราเอล ปิดล้อมกาซา และไม่ให้ส่งมอบความช่วยเหลือใด ๆ เข้าไปนาน 10 สัปดาห์แล้ว
คำแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้เริ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินทั่วกาซาเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยก่อนหน้านี้ อิสราเอลต้องเผชิญกับแรงกดดันจากนานาชาติให้ยกเลิกการปิดล้อมกาซา เนื่องจากอิสราเอลไม่อนุญาตให้นำอาหาร เชื้อเพลิง และยารักษาโรค รวมถึงสิ่งของช่วยเหลือด้านสิทธิมนุษยชนใด ๆ เข้าไปยังกาซาเลย ส่งผลให้องค์กรด้านมนุษยธรรมออกมาเตือนถึงความเสี่ยงของภาวะอดอยากในหมู่ประชากรราว 2 ล้าน 1 แสนคนในกาซา
ขณะเดียวกัน ทางสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ยังระบุด้วยว่า วิกฤตความอดอยากนอกจากจะกระทบต่อผู้คนในกาซาแล้ว ยังเป็นอุปสรรคต่อปฏิบัติการทางทหารครั้งใหม่ของอิสราเอล ที่มีเป้าหมายยึดครองพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญในกาซา เพื่อถอนรากถอนโคนกลุ่มติดอาวุธฮามาส และนำตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกจับตัวไปกลับบ้าน
เมื่อวานนี้ กองทัพอิสราเอล ได้ประกาศคำสั่งอพยพครั้งใหญ่ พร้อมกับระบุว่า เป็นคำเตือนครั้งสุดท้าย ก่อนที่อิสราเอลจะใช้การโจมตีรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเรียกร้องให้ประชาชนอพยพไปยังพื้นที่เขตปลอดภัยที่รู้จักกันในชื่อ “อัล-มาวาซี” ที่อยู่ทางตะวันตกของเมืองข่านยูนิส
ขณะที่หน่วยงานด้านสาธารณสุขในกาซา ออกมาระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตรวมนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ปี 2023 ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 53,339 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 121,034 คน