'ดีเอสไอ' บุกยึดทรัพย์ 2 พันล้าน เครือข่ายแก๊งค้ายาเชียงราย แฉซื้อที่ดินฟอกเงิน
ดีเอสไอ ยึดทรัพย์คดียาเสพติดจากป.ป.ส. เครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ เชียงรายกว่า 2,000 ล้าน แฉซื้อที่ดินฟอกเงิน โอนเงินซื้อขายกันผ่านบัญชี
เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 31 มี.ค.65 นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) มอบหมายให้นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ เขตพื้นที่ 5 (เชียงใหม่) นำกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมกับตำรวจ สภ.แม่สาย และ สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย เข้าตรวจค้นบ้านพักเครือข่ายยาเสพติดโดยตามคดีพิเศษที่ 32/2564 โดยทางดีเอสไอได้รับการประสานจาก ป.ป.ส.ให้ตรวจสอบทรัพย์สิน จำนวน 3 จุด โดยอยู่ในพื้นที่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จำนวน 2 หลัง และ ต.ป่าสัก อ.เชียงแสน จำนวน 1 หลัง
ผลการตรวจค้นพบเอกสารและพยานหลักฐานต่างๆ เป็นจำนวนมาก จึงตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน พบมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจเป็นมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท โดยจะตรวจยึดของกลางประกอบด้วยบัญชีธนาคารของกลุ่มเครือข่ายดังกล่าวจำนวน 246 บัญชี รถยนต์และจักรยานยนต์จำนวน 155 คัน มูลค่าประมาณ 130 ล้านบาท โฉนดที่ดินจำนวน 232 แปลง มูลค่าประมาณ 1,250 ล้านบาท รวมมูลค่าของกลางที่ประมาณ 1,380 ล้านบาท
โดยทางกรมสอบสวนคดีพิเศษจะส่งหนังสือเรียกบุคคลที่ถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินทั้งหมดไปชี้แจง หากไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ ก็จะดำเนินการทางกฎหมายตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ยึดทรัพย์เพื่อนำเข้ากองทุนป้องกันปราบปรามและแก้ไขปัญหายาเสพติด
รวมทั้งจะเร่งดำเนินคดีกับเครือข่ายที่ผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 และประมวลรัษฎากรฐานหลีกเลี่ยงภาษี ด้วย
ด้านนายธานินทร์ กล่าวว่า เครือข่ายยาเสพติดรายนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากเครือข่ายใช้การโอนเงินซื้อขายกันผ่านบัญชีธนาคาร และเนื่องไปถึงทรัพย์สินอื่นๆ ที่แปลงไปเป็นที่ดินที่มีมูลค่าแพงเพื่อการฟอกเงิน โดยเฉพาะที่ดินที่มีมูลค่ามากที่สุดในบรรดาทรัพย์สินทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบจากหลักฐานต่างๆ ไปยังเครือข่ายที่เหลือต่อไป