รีเซต

จับตา “เขื่อนเจ้าพระยา” ระบายน้ำเพิ่ม เหตุน้ำเหนือทะลัก เตือนพื้นที่ริมน้ำยกของขึ้นที่สูง

จับตา “เขื่อนเจ้าพระยา”  ระบายน้ำเพิ่ม เหตุน้ำเหนือทะลัก  เตือนพื้นที่ริมน้ำยกของขึ้นที่สูง
TNN ช่อง16
10 พฤศจิกายน 2568 ( 10:30 )
8

ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ   กรมชลประทาน รายงานข้อมูลว่า ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ในพื้นที่ตอนบน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลักเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยที่สถานีวัดน้ำ P.17 แม่น้ำปิง มีปริมาณไหลผ่านในอัตรา 1,186 ลูกบาศก์เมตรวินาที ส่วนสถานีวัดน้ำ Y.64 แม่น้ำยม มีปริมาณไหลผ่านในอัตรา 496 ลูกบาศก์เมตาต่แวินาที และสถานีวัดน้ำ N.67 แม่น้ำน่าน มีปริมาณไหลผ่านในอัตรา 1,225 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนที่จะไหลมารวมกันที่จังหวัดนครสวรรค์ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีปริมาณไหลผ่านในอัตรา 2,948 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในขณะที่สถานี Ct.25 แม่น้ำสะแกกรัง มีปริมาณไหลผ่านในอัตรา 249 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ก่อนที่จะไหลไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ทำให้ระดับน้ำหน้าเขื่อนเจ้าพระยา ยกตัวสูงขึ้นและมี แนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมชลประทาน ได้บริหารจัดการน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งเต็มศักยภาพของลำคลอง พร้อมจะทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เป็น 2,800 ลูกบาศก์เมตรวินาทีเมื่อ เวลา 15.00 น. และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำฝนที่ตกในพื้นที่ 

โดยจากการติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดพบว่า ปริมาณน้ำทางตอนบนมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของพายุคัลแมกี ตามการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา จึงยังคงมีปริมาณน้ำเหนือไหลหลากลงสู่พื้นที่ตอนล่างอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงวันที่ 6 - 12 พฤศจิกายนเกิดสถานการณ์น้ำทะเลหนุน จึงทำให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างจำกัดและต้องใช้เวลา

สำหรับเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งถือเป็นกุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลุ่มภาคกลาง รายงานว่าปริมาณน้ำเหนือที่ไหลเข้าสู่เขื่อนยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากฝนตกหนักทางตอนบนของประเทศ อิทธิพลพายุคัลแมกี ทำให้เขื่อนต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำเป็น 2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างในลำน้ำ

ส่งผลให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ลงไปจนถึง จ.สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำจะสูงขึ้น 10–15 เซนติเมตร ทางเขื่อนแจ้งเตือนประชาชนให้ยกของขึ้นที่สูงและติดตามประกาศจากราชการอย่างใกล้ชิด

ชัยนาท: ปภ.รายงานว่ามีพื้นที่ถูกน้ำท่วมทั้งหมด 4 อำเภอ ได้แก่ พื้นที่เหนือเขื่อน 3 อำเภอ คือ มโนรมย์ วัดสิงห์ และเมืองชัยนาท ส่วนพื้นที่ท้ายเขื่อนได้รับผลกระทบ 1 อำเภอ คือ สรรพยา บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วม 4,365 ครัวเรือน มีผู้ประสบภัยรวม 9,837 คน

อ่างทอง: ระดับน้ำที่ไหลผ่านหน้าศาลากลางจังหวัดเพิ่มสูงเป็น 9.47 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤต 8 เมตร และเหลือเพียง 50 เซนติเมตรจะถึงระดับตลิ่ง 10 เมตร ส่งผลให้พนังกั้นน้ำใกล้เชิงสะพานป่าโมก อ.พาโมก พังทลายกว่า 20 เมตร น้ำทะลักเข้าถนนสายป่าโมก-สุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่เทศบาลร่วมกับทหารและกู้ภัย ใช้เรือยนต์ขนถุงบิ๊กแบ็กเข้าซ่อมพนังกั้นน้ำ พร้อมตอกเสาเข็มล้อมกระสอบสำเร็จชะลอกระแสน้ำลงได้ช่วงค่ำ ด้านผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองสั่งเพิ่มความสูงคันกั้นน้ำ พร้อมเตรียมแผนอพยพประชาชนหากเกิดอุทกภัย

พระนครศรีอยุธยา: น้ำท่วมขยายวงกว้าง บ้านเรือนริมแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อยถูกน้ำท่วมสูงถึงชั้น 2 ของบ้าน โดยเฉพาะ อ.ผักไห่ กระทบ 16 ตำบล 128 หมู่บ้าน เดือดร้อน 7,556 ครัวเรือน ประชาชนหลายรายระบุว่าต้องอยู่กับน้ำท่วมมานานกว่า 4 เดือน ระดับน้ำเกือบเท่าปี 2554 เรียกร้องให้ภาครัฐบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน

นนทบุรี: พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมจากน้ำทะเลหนุนและการระบายน้ำของเขื่อน เจ้าหน้าที่เทศบาลนครปากเกร็ดวางแนวกั้นน้ำด้วยกระสอบทรายยกระดับสะพานไม้ พร้อมจัดกระสอบสำรองตามจุดเสี่ยง รองรับระดับน้ำสูงขึ้น

กรุงเทพมหานคร: ระดับน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะใต้สะพานกรุงธน (ซังฮี้) ต่ำกว่าแนวสันเขื่อนไม่ถึง 1 เมตร ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์ พร้อมสั่งให้เตรียมเครื่องสูบน้ำและแนวกระสอบทราย แจ้งเตือนประชาชนและผู้ประกอบการริมแม่น้ำเตรียมพร้อมรับมือ ระหว่างวันที่ 5–14 พ.ย. คาดระดับน้ำสูง 1.80–1.90 เมตร จุดที่น่าเป็นห่วงคือแนวฟันหลอยาว 200 เมตร ริมแม่น้ำชุมชนโรงสี ถนนพระราม 3 อาจกระทบบ้านเรือนกว่า 200 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่เตือนประชาชนเฝ้าระวังและยกของขึ้นที่สูง

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง