CNTชิงงานใหม่2.61หมื่นล. เติมงานในมือดันรายได้โต

ทันหุ้น – CNT ตั้งเป้ารายได้ปี 2565 เติบโตมากกว่าปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ที่ 6.4 พันล้านบาท เดินหน้าประมูลงานใหม่ มูลค่ากว่า 2.61 หมื่นล้านบาท เติมงานในมือจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.37 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่อง ลุ้นไตรมาส 4/2564 ผลงานพลิกบวก หลังผ่อนคลายล็อกดาวน์ สามารถกลับมาทำงานได้ พร้อมมองภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างยังชะลอตัว จากโควิด-19 และยังต้องจับตาต่อเนื่อง

นายสุรศักดิ์  โอสถานุเคราะห์  กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CNT เปิดเผยว่า บริษัทได้ประเมินทิศทางผลการดำเนินงานในปี 2565 คาดว่าจะเติบโตได้มากกว่าปีนี้ ที่คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 6,400 ล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้ที่ 6,700 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 3/2564 ซึ่งมีคำสั่งให้ปิดสถานที่ก่อสร้างและบ้านพักคนงาน ในหน่วยงานก่อสร้างในเขตกรุงเทพมหานคร ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2564

รวมถึงบังคับใช้นโยบายการบริหารจัดการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ (Bubble and Seal) ส่งผลให้ระหว่างไตรมาสโครงการการก่อสร้างของบริษัทหลายโครงการในเขตกรุงเทพฯ ถูกปิดเป็นระยะเวลานาน ส่งผลทำให้รายได้ลดลง รวมถึงมีความล่าช้าในการจัดส่งอุปกรณ์ก่อสร้าง และวัสดุก่อสร้างที่นำเข้าจำนวนมาก ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และการปิดสถานที่ก่อสร้างทำให้เกิดความล่าช้าในการส่งมอบงาน

*ลุ้นผลงานพลิกบวก

สำหรับในช่วง 9 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วที่ 4,796ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 39.94 ล้านบาท โดยบริษัทคาดว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสที่ 4/2564 ถึงคาดว่าจะเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นหลังมีการปลดมาตรการผ่อนคลายล็อกดาวน์และสามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ และคาดว่าจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้

สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมการก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐจะมีแนวโน้มหดตัวด้วยอัตราติดลบประมาณ 5% และส่งผลให้มูลค่าการก่อสร้างภาครัฐโดยรวมในปี 2564อยู่ที่ประมาณ 806,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนผู้ประกอบการการก่อสร้างภาคเอกชน ภาพรวมอุตสาหกรรมยังมีแนวโน้มชะลอตัวตามการลดลงของภาคอสังหาริมทรัพย์ มูลค่าการก่อสร้างภาคเอกชนในปี 2564 คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 514,000 ล้านบาท ลดลง 7%โดยเป็นการปรับลดลงทั้งในส่วนของการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย และอาคารเชิงพาณิชย์

นอกจากนี้ผู้ประกอบการก่อสร้างยังต้องพบกับต้นทุนเหล็กและแรงงานที่สูงขึ้นโดยคาดว่าจะมีผลกระทบไปจนถึงปี 2565 โดยผู้ประกอบการมีแนวโน้มปรับกลยุทธ์เข้ารับงานก่อสร้างภาครัฐมากขึ้นรวมถึงปรับตัวโดยการนำเทคโนโลยีการก่อสร้างมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ขณะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  กลายพันธุ์โอไมครอน ในครั้งนี้ ก็ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดแต่บริษัทมองว่าคงไม่ ร้ายแรงเหมือนช่วงที่ผ่านมา

*ปี 65 ประมูลงานเพิ่ม

สำหรับในปี 2565 บริษัทตั้งเป้าเข้าประมูลงาน มูลค่า 26,100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงานราชการ 10,000 ล้านบาท และงานภาคอุตสาหกรรมอีก 6,000 ล้านบาท งานภาคเอกชน 5,300 ล้านบาท รวมถึงงานภาครัฐ อาทิ งานถนน อีกประมาณ 1,500 ล้านบาท คาดหวังได้รับงานเติมงานในมือ (Backlog) จาก ณ สิ้นไตรมาสที่ 3/2564 มีอยู่ 13,756ล้านบาท