COCOCO ลงทุน 250 ลบ. ก่อสร้างคลังสินค้ากึ่งอัตโนมัติ

#COCOCO #ทันหุ้น - บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2567 ได้มีมติอนุมัติการลงทุนโครงการก่อสร้างคลังสินค้ากึ่งอัตโนมัติ เพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์มะพร้าว โดยกำหนดมูลค่าการลงทุนรวมประมาณ 250 ล้านบาทเพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์มะพร้าวตามกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น และยอดคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยภายหลังการเข้าลงทุนก่อสร้างคลังสินค้าดังกล่าว จะทำให้บริษัทมีคลังสินค้าที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและพื้นที่จัดเก็บผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ส่งผลให้มีการจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ธุรกรรมการได้มาซึ่งสินทรัพย์จากการลงทุนโครงการก่อสร้างคลังสินค้ากึ่งอัโนมัติ เพื่อรองรับการจัดเก็บผลิตภัณฑ์มะพร้าว เข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ (และที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 ("ประกาศการได้มาและจำหน่ายไป")

ซึ่งเมื่อคำนวณขนาดรายการของธุรกรรมดังกล่าว โดยใช้เกณฑ์มูลค่รวมสิ่งตอบแทน โดยอ้างอิงจากงบการเงินของบริษัท สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่มีขนาดรายการสูงสุด เท่ากับร้อยละ 4.90 และเมื่อบริษัทพิจารณารายการนี้รวมกับขนาดรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเกณฑ์ได้มาสูงสุด คือ เกณฑ์มูลค่ารวมสิ่งตอบแทน มีขนาดรายการรวมเท่ากับ 19.85 ดังนั้น ทำให้ขนาดรายการรวมเท่ากับร้อยละ 24.75 รายการดังกล่าวจึงเข้าข่ายเป็นรายการที่มีขนาดรายการมากกว่าร้อยละ 15 แต่ไม่เกินร้อยละ 50

ดังนั้น บริษัทจะต้องจัดทำรายงานและเปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการดังกล่าวของบริษัทต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามบัญชี (1) ท้ายประกาศรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ทันที และต้องจัดส่งหนังสือเวียนให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัท ภายใน 21 วัน นับแต่วันที่เปิดเผยสารสนเทศการเข้าทำรายการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตามประกาศการได้มาจำหน่ายไป โดยไม่ต้องขออนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าวจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท

ทั้งนี้ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของบริษัทจะพิจารณาคู่สัญญาที่ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันกับบริษัท ดังนั้น รายการดังกล่าวข้างต้นจึงไม่เข้าข่ายเป็นรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 21/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน ลงวันที่ 31 สิงหาคม 2551 (และที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน พ.ศ. 2546ลงวันที่ 19พฤศจิกายน 2546 (และที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม)