อังกฤษพัฒนาดาวเทียมใช้ซ้ำเดินทางกลับโลกลงจอดบนโดรนลอยน้ำ
บริษัท สเปซ ฟอร์จ (Space Forge) ประเทศอังกฤษ กำลังพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมรูปแบบใหม่สามารถเดินทางกลับโลกเพื่อนำกลับมาใช้งานใหม่ แก้ปัญหาขยะอวกาศในวงโคจรของโลกที่ปัจจุบันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บริษัทได้ร่วมมือกับบริษัท ฟอร์จสตาร์ (ForgeStar) เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่นี้ขึ้นมาโดยการรวมเทคโนโลยีดาวเทียมและยานอวกาศเข้าไว้ด้วยกัน แนวคิดหลักใช้การส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจร เมื่อดาวเทียมหมดอายุการใช้งานโดยปกติแล้วดาวเทียมทั่วไปจะกลายเป็นขยะอวกาศแต่เทคโนโลยีดาวเทียมรูปแบบใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาสามารถเดินทางกลับโลกเพื่อใช้งานใหม่
แผงกันความร้อน (Heat shields) ที่มีชื่อว่าพริดเวน (Pridwen) เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ดาวเทียมเดินทางผ่านชั้นบรรยากาศโลกกลับลงสู่โลก ซึ่งกระบวนการนี้ทำให้เกิดความร้อนสูงจนทำให้ดาวเทียมระเบิดออกได้ แผงกันความร้อนถูกออกแบบให้สามารถพับซ่อนเก็บเอาไว้ในดาวเทียมและเมื่อถูกใช้งานมันจะกางออกลักษณะคล้ายร่มขนาดใหญ่กลับหัว
แผงกันความร้อนพริดเวน (Pridwen) สามารถพับเก็บได้ลักษณะแตกต่างจากแผงกันความร้อนของนาซาหรือบริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) ที่ใช้วิธียึดติดแผ่นกระเบื้องกันความร้อนเข้ากับผิวภายนอกบริเวณลำตัวด้านล่างและปีกของยานอวกาศ
นอกจากนี้บริษัทยังพัฒนาโดรนลอยน้ำไร้คนขับชื่อว่าฟีลเดอร์ (Fielder) เพื่อรองรับการลงจอดของดาวเทียมบนผิวน้ำในทะเล โดรนลอยน้ำรุ่นใหม่นี้มีลักษณะคล้ายจานตาข่ายขนาดใหญ่ติดตั้งทุ่นลอยน้ำและระบบขับเคลื่อนประมาณ 12 ลูก ลอยอยู่ด้านล่าง โดรนเคลื่อนที่เข้าหาพื้นที่การลงจอดของดาวเทียมโดยอัตโนมัติผ่านระบบนำทางที่แม่นยำ โดยไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์อยู่บนโดรนขณะปฏิบัติภารกิจ
ปัจจุบันจรวดขนส่งอวกาศที่สามารถเดินทางกลับโลกถูกพัฒนาและใช้งานมาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยมีจรวดฟัลคอน 9 (Falcon 9) ของบริษัท สเปซเอ็กซ์ (SpaceX) เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีดังกล่าว อย่างไรก็ตาม การนำดาวเทียมกลับมาใช้งานใหม่ยังคงเป็นสิ่งท้าทายทางวิศวกรรมอวกาศและยังไม่มีบริษัทไหนทำได้สำเร็จ บริษัท สเปซ ฟอร์จ (Space Forge) มองเห็นช่องว่างดังกล่าวและต้องการพัฒนาเทคโนโลยีดาวเทียมที่สามารถใช้งานซ้ำได้เพื่อประหยัดต้นทุนและลดปริมาณขยะอวกาศบนวงโคจรของโลก
ก่อนหน้านี้บริษัท สเปซ ฟอร์จ (Space Forge) ประสบความสำเร็จในการระดมทุนมูลค่า 10.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 350 ล้านบาท ในปี 2022 ที่ผ่านมา บริษัทวางแผนการทดสอบภารกิจส่งดาวเทียมต้นแบบดวงแรกในปี 2023 โดยมีลูกค้าสำคัญ เช่น องค์การอวกาศยุโรป (ESA) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของบริการขนส่งอวกาศเชิงพาณิชย์ (Commercial Space Transportation Services) อย่างไรก็ตามบริษัทยังไม่เปิดเผยกำหนดการของภารกิจอย่างชัดเจนทั้งวันเวลาและสถานที่ส่งดาวเทียม
ที่มาของข้อมูล Techcrunch
ที่มาของรูปภาพ Spaceforge