รีเซต

TCAP 'กสิกรไทย' ชี้มูลค่าหุ้นน่าสน ทางเลือกการลงทุนที่ปลอดภัย

TCAP 'กสิกรไทย' ชี้มูลค่าหุ้นน่าสน ทางเลือกการลงทุนที่ปลอดภัย
ทันหุ้น
24 มกราคม 2567 ( 12:34 )
50

#ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น TCAP คาดกำไรปกติไตรมาส 4/66 ที่ 1.86 พันลบ. เพิ่มขึ้น 71.9% YoY และ 2.7% QoQ หนุนจาก TTB, TPLUS แต่หักบางส่วนจาก THANI, TNS, MBK, TNI และ TLife แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจโดยรวมของ TCAP จะดีขึ้นโดยเฉพาะพอร์ตสินเชื่อของ TPLUS ที่เติบโตขึ้นเร็ว ขณะที่ยังรักษาระดับ NPL ไว้ที่ 0% แนะนำ “ซื้อ” เพิ่ม TP ขึ้น 2% เป็น 67.1 บาท ชอบ TCAP จากมูลค่าหุ้นที่่น่าดึงดูดใจเทียบกับคู่แข่งในกลุ่มธนาคารและมูลค่าหุ้นปัจจุบันที่ซื้อขายในระดับส่วนลด

พรีวิวไตรมาส 4/2566 ฝ่ายวิจัยคาดว่า TCAP จะรายงานงบการเงินประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ.2567 โดยคาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.86 พันลบ. เพิ่มขึ้น 71.9% YoY และ 2.7% QoQ หนุนจาก 1) ส่วนแบ่งกำไรที่มากขึ้นจาก TTB 2) รายได้ดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจากพอร์ตสินเชื่อของ ธนชาต พลัส (TPLUS) ที่มากขึ้น แต่คาดจะถูกหักล้างบางส่วนจาก 1)กำไรปกติของ THANI ที่ลดลงจากผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ที่สูงขึ้นและต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นและ 2) ผลประกอบการที่อ่อนแอจากหลักทรัพย์ธนชาติ (TNS) จากมูลค่าการซื้อขายในตลาดที่ลดลง และ 3) กำไรที่ลดลงจากทีไลฟ์ ประกันชีวิต (TLife) และ ธนชาตประกันภัย (TNI) 

 

โดยฝ่ายวิจัยคาดว่า TCAP จะจ่ายเงินปันผลในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ที่ 1.9 บาท/หุ้น หากรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 1.2 บาท/หุ้น ในเดือนต.ค.2566 TCAP จะจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 รวมที่ 3.1 บาท/หุ้น หรือคิดเป็นอัตราตอบแทนที่ 6% และอัตราการจ่ายเงินที่ 48%

 

คาดการณ์สมมติฐาน ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ดอกเบี้ยรวมในไตรมาส 4/2566 จะอยู่ที่ 1.4 พันลบ. เพิ่มขึ้น 17.3% YoY และ 5.6% QoQ แรงขับเคลื่อนการเติบโตในเชิง QoQ คาดจะมาจากรายได้ดอกเบี้ยจากพอร์ต สินเชื่อของ TPLU ที่คาดจะอยู่ที่ 6.9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 66.8% YoY และ 15.7% QoQ ขณะที่ฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ดอกเบี้ยของ THANI จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 5.58 หมื่นลบ. หรือเพิ่มขึ้น 4.1% YoY และ 1.2% QoQ TNS จะเป็นปัจจัยฉุดหลักจากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาด ฝ่ายวิจัยคาดว่าค่าเบี้ยประกันจะอยู่ที่ 679 ลบ. ทรงตัว QoQ แต่เพิ่มขึ้น 87.1% YoY จากฐานที่ต่ำผิดปกติในไตรมาส 4/2565

 

ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทในเครือ ฝ่ายวิจัยคาดว่าส่วนแบ่งกำไรจะอยู่ที่ 1.23 พันลบ. เพิ่มขึ้น 29.4% YoY และ 2% QoQ เมื่อวันที่ 19 ม.ค.2567 TTB รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2566 ที่ 4.9 พันลบ. เพิ่มขึ้น 26% YoY และ 3% QoQ และ TCAP รับรู้ที่ 1.2 พันลบ. (TCAP ถือหุ้น 24.95% ใน TTB) และฝ่ายวิจัยคาดว่า MBK จะรายงานส่วนแบ่งกำไรให้กับ TCAP ที่ 20 ลบ. ในไตรมาส 4/2566 เทียบกับที่ 24 ลบ. ในไตรมาส 4/2565 และ 28 ลบ. ในไตรมาส 3/2566 

 

แนวโน้มกำไรปี 67 มี upside ราว 7%

 

ฝ่ายวิจัยคาดว่าธุรกิจของ TCAP จะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีหนุนจาก 1) กำไรปกติที่คาดจะเติบโตขึ้นแข็งแกร่งที่ 10% YoY ในปี 2567 ด้วย upside ต่อกำไรปกติในปี 2567 ที่ราว 7% จากประโยชน์ด้านภาษีของ TTB ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่ร่วมใน TCAP และ 2) ปัจจัยหนุนกำไรสุทธิจากธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง เช่น TPLUS ซึ่งรายงานพอรต์ สินเชื่อที่เติบโตขึ้นแข็งแกร่งจาก 395 ลบ. ในไตรมาส 2/2564 มาอยู่ที่ 6.9 พันลบ. ในไตรมาส 4/2566 ขณะที่ยังคงระดับ NPL ไว้ที่ 0% 

 

เพิ่มเป้าหมายปี 67 ขึ้น 2.3% เป็น 67.1 บ.

 

คงคำแนะนำ “ซื้อ ” TCAP และเพิ่มราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 ขึ้น 2.3% หรือจาก 65.6 บาท เป็น 67.1 บาท เนื่องจากฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายของ TTB และ THANI ขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับราคาเป้าหมายของ KS 2) มูลค่าหุ้นของ TCAP น่าดึงดูดใจเพราะซื้อขายด้วย PBV ที่ 0.7 เท่า และ ROE ที่ 10.7% เทียบกับ PBV เฉลี่ยและ ROE ของกลุ่มธนาคารที่ 0.8 เท่า และ 10.3% ตามลำดับ TCAP เป็นหุ้นที่ปลอดภัยสำหรับนักลงทุนในช่วงที่ตลาดผันผวนจากแนวโน้มเงินปันผลและกำไรสุทธิที่สูงขึ้น 

 

นอกจากนี้ TCAP ยังซื้อขายด้วยส่วนลดที่ 9.3% เทียบกับระดับเฉลี่ย 3 ปี ที่ 8% ฝ่ายวิจัยคาดว่าช่องว่างของส่วนลดการถือครองจะแคบลงจากแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจที่สดใสของทั้ง TCAP และบริษัทในเครือ และความสามารถในการส่งต่อเงินปันผลจากบริษัททในเครือให้กับผู้ถือหุ้น

 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง