รีเซต

เสียงร้อยลั่นรถ! กระบะไม่ชินทาง เปลี่ยนเลนกะทันหัน ตัดหน้ารถทัวร์ชนยับ

เสียงร้อยลั่นรถ! กระบะไม่ชินทาง เปลี่ยนเลนกะทันหัน ตัดหน้ารถทัวร์ชนยับ
ข่าวสด
6 มกราคม 2564 ( 08:39 )
111
เสียงร้อยลั่นรถ! กระบะไม่ชินทาง เปลี่ยนเลนกะทันหัน ตัดหน้ารถทัวร์ชนยับ

ผู้โดยสารระทึก กระบะไม่ชินทาง ขับตัดหน้ารถทัวร์กะทันหัน ชนเต็มแรง อีก 2 คันขับตามมาเบรกไม่ทันชนกันยับบนถนนวิภาวดี เจ้าหน้าที่เร่งช่วย

 

เมื่อเวลา 05.10 น. วันที่ 6 ม.ค.2564 ร.ต.ท.วัชรินทร์ สุวรรณเลขา รองสารวัตร(สอบสวน) สน.วิภาวดี รับแจ้งเหตุรถชนกัน บริเวณถนนวิภาวดี-รังสิต ขาเข้า ก่อนถึงแยกหลักสี่ แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจอสบพร้อมหน่วยกู้ชีพมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง

 

ผู้โดยสารระทึก กระบะไม่ชินทาง ขับตัดหน้ารถทัวร์กะทันหัน ชนเต็มแรง

 

ที่เกิดเหตุบริเวณช่องทางด่วนพบรถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 81-0271 ยโสธร ชนท้ายอัดก็อบปี้กับรถทัวร์ สายกรุงเทพ-อุบลราชธานี ทะเบียน 15-5663 กรุงเทพมหานคร บริเวณด้านหน้ารถทัวร์พบรถกระบะตู้ทึบ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ทะเบียน ตพ-6157 กทม. สภาพเสียหลักพลิกตะแคง และใกล้กันยังพบรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บจ1534 พิจิตร ด้านหน้ามีรอยเฉี่ยวชนจอดอยู่ช่องทางขวา มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย เป็นคนขับรถบรรทุก 6 ล้อ ขาท่อนล่างถูกคอนโซลหน้ารถกดทับ และคนขับรถกระบะโตโยต้า เจ้าหน้าที่เร่งใช้เครื่องตัดถ่างเข้าให้การช่วยเหลือนำออกจากตัวรถ และส่งโรงพยาบาลเปาโล เกษตร

 

 

จากการสอบสวน นายตวงภูมิ สะอาด อายุ 34 ปี คนขับรถทัวร์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถทัวร์พาผู้โดยสารจาก จ.อุบลราชธานี เพื่อไปส่งที่ขนส่งหมอชิต โดยขับอยู่เลนกลางของช่องทางด่วนของถนนวิภาวดีขาเข้า คู่มากับรถกระบะตู้ทึบ ขณะมาถึงช่วงก้างปลาซึ่งเลนซ้ายสุดเป็นช่องทางบังคับให้รถแล่นออกช่องทางคู่ขนาน

 

นายตวงภูมิ กล่าวต่อว่า จู่ ๆ คนขับรถกระบะอีซูซุ ซึ่งขับอยู่เลนซ้ายคาดว่าน่าจะไม่ชินเส้นทาง ขับเปลี่ยนเลนกะทันหันเบียดเข้ามาจนชนที่ด้านซ้ายของรถ ทำให้รถเสียหลักไปชนเข้ากับรถกระบะโตโยต้าที่วิ่งอยู่เลนขวา จนรถกระบะพลิกตะแคง ก่อนที่รถบรรทุก 6 ล้อที่ขับตามหลังมาเบรกไม่อยู่ พุ่งเข้ามาชนท้ายอย่างแรง จนผู้โดยสารที่อยู่บนรถตระโกนร้องด้วยความตกใจ

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรบนถนนวิภาวดีขาเข้า ในช่องทางด่วน ให้ประชาชนผู้ใช้รถเบี่ยงไปใช้ช่องทางคู่ขนานแทน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน ทำให้รถติดยาวสะสมไปถึงหน้าสนามบินดอนเมือง พร้อมประสานรถยกมาเคลื่อนย้ายรถคู่กรณี เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหากับใคร ต้องรอสอบพยานแวดล้อม รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อพิจารณาว่าเกิดจากความประมาทของผู้ขับรถคันใด จึงจะแจ้งข้อหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง