รีเซต

ปักหมุดที่เที่ยวช่วงหยุดยาว “ถ้ำสวย ที่นักธรณีวิทยาแนะนำ ไม่ไปไม่ได้แล้ว...”

ปักหมุดที่เที่ยวช่วงหยุดยาว “ถ้ำสวย ที่นักธรณีวิทยาแนะนำ ไม่ไปไม่ได้แล้ว...”
TNN ช่อง16
14 สิงหาคม 2563 ( 11:59 )
495
ปักหมุดที่เที่ยวช่วงหยุดยาว “ถ้ำสวย ที่นักธรณีวิทยาแนะนำ ไม่ไปไม่ได้แล้ว...”
หากจะให้แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย นอกจากไปเที่ยวทะเล ดำน้ำ ปีนเขา ขึ้นดอยแล้ว "ถ้ำสวย" ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม ที่นักเดินทางให้ความสนใจ เพราะในประเทศไทย มีถ้ำสวย อยู่ทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละถ้ำ ก็มีจุดเด่นที่ต่างกันไป แต่ที่ผ่านมาอาจจะมีข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับถ้ำมากมายที่ทำให้หลายคนกลัวไปบ้าง
 
ขณะนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมทรัพยากรธรณี ได้มีแผนการสำรวจ ศึกษา และวางแผนเพื่อการบริหารจัดการถ้ำของประเทศไทย ทำให้เราสามารถเที่ยวถ้ำได้อย่างปลอดภัย และอุ่นใจมากขึ้น วันนี้แอดมิน
 
ขอนำเสนอ ถ้ำสวยในประเทศไทย ที่นักธรณีวิทยาแนะนำ มาฝาก เพื่อเป็นไอเดียในการหาที่เที่ยวในช่วงวันหยุดที่จะถึงนี้
 

 
1. ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย

ถ้ำหลวง เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ มีความยาว 10,316 เมตร เป็นถ้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย ซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) เป็นถ้ำประเภทถ้ำกึ่งแห้ง บริเวณปากถ้ำเป็นห้องโถงกว้าง พบหินงอกหินย้อย ภายในถ้ำมีธารน้ำไหลตลอดทั้งปี ในฤดูฝนน้ำจะท่วมภายในถ้ำ จึงไม่อนุญาตเข้าไปจนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน
 
จากเหตุการณ์ที่เป็นข่าวดังไปทั่วโลก เมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 61 เมื่อนักเรียนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมีและโค้ช รวมทั้งหมด 13 คน เข้าไปเที่ยวภายในถ้ำ และเกิดน้ำป่าไหลหลาก ทำให้ไม่สามารถออกมาได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยทั้งจากไทยและต่างประเทศช่วยกันระดมค้นหาเป็นระยะเวลา 17 วัน ภารกิจดังกล่าวก็สำเร็จ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์นี้ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ กลายเป็นสถานที่ดึงดูดของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ เมื่อมาเยือนจังหวัดเชียงราย เนื่องจากสถานที่นี้ครั้งนึงเคยได้รับการช่วยเหลือจากนานาชาติที่ระดมสัพพะกำลังเพื่อปฏิบัติภารกิจการช่วยเหลือ 13 หมูป่า 
 
ที่อยู่: ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย เชียงราย 
 

 
2. ถ้ำแก้วโกมล จังหวัดแม่ฮ่องสอน
 
ถ้ำแก้วโกมล อยู่ในวนอุทยานถ้ำแก้วโกมล จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นถ้ำที่มีความแวววาวของผลึกแร่แคลไซต์ ดูคล้ายปะการัง ดอกกะหล่ำ เกล็ดน้ำแข็ง ดอกเข็ม และโคมไฟ มีสีขาวใส เหลือง แดง และน้ำตาล หรือที่เรียกกันว่า ถ้ำน้ำแข็ง ในปี 2544 ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า “ถ้ำแก้วโกมล”
 
ด้วยลักษณะความสวยงามเฉพาะตัวของถ้ำผลึกแร่แคลไซต์เช่นนี้ สามารถพบได้เพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือประเทศออสเตรเลีย ประเทศจีน และประเทศไทย ซึ่งสำหรับถ้ำแก้วโกมลนั้น การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ประกาศให้เป็นหนึ่งในแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดหากได้มาเยือนแม่ฮ่องสอน (ที่มา: https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/706296/)
 
ที่อยู่ ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย แม่ฮ่องสอน 
 

 
3. ถ้ำเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
 
ถ้ำเชียงดาว เป็นถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ ภายในมีแนวโถงถ้ำ 5 โถง ประกอบด้วย 1).โถงถ้ำพระนอน 2).โถงถ้ำน้ำ 3).โถงถ้ำม้า 4).โถงถ้ำลับ 5).โถงถ้ำแก้ว ตามเส้นทางจะพบความงดงามของประติมากรรมถ้ำ เช่น ม่านหินย้อย เสาหิน หลอดหินย้อย หินน้ำไหล ในเส้นทางยังไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง ต้องมีผู้นำทางถือตะเกียงในการเข้าชม ส่วนโถงถ้ำมีหินงอก หินย้อยสวยงาม
 
นอกจากความสวยงามของถ้ำแล้ว ถ้ำเชียงดาวยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพนับถือด้วย อีกทั้งยังตั้งอยู่บนภูเขาที่เป็นรู้จักกันในชื่อ “ดอยเชียงดาว” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและยังเป็นภูเขาที่สูงเป็นอันดับที่ 3 ของประเทศ ที่รองมาจากดอยอินทนนท์และดอยผ้าห่มปก 
 
ที่อยู่ ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว เชียงใหม่ 
 

 
4. ถ้ำปฏิหาริย์ จังหวัดอุบลราชธานี
 
ถ้ำปฏิหาริย์ (ชื่อเดิม ถ้ำมืด) เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ที่มีถ้ำอยู่ภายในวัด ตั้งอยู่ใกล้ๆ กับเขตป่าดงนาทาม ในเขตอำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี เป็นถ้ำหินทรายที่มีความยาวประมาณ 454 เมตร นับเป็นถ้ำหินทรายที่มีความยาวเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศ ภายในถ้ำพบเศษเสาหินทรายถล่มจำนวนมาก นอกจากนี้ในส่วนลึกของถ้ำยังพบสัตว์เฉพาะถิ่น เช่น จิ้งหรีด แมงมุมแส้ เป็นต้น ที่ตั้งของถ้ำอยู่ในวัดถ้ำปาฏิหาริย์ ซึ่งมีตำนานจาก หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ณ วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ที่กล่าวไว้ว่า “ถ้ำแห่งนี้เป็นทางเชื่อมต่อระหว่างเมืองมนุษย์และเมืองบาดาล และเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่มีเจ้าปู่เป็นผู้ปกปักรักษา” ด้วยความเชื่อของชาวไทยกับตำนานพญานาคที่มีมาช้านาน ทำให้ถ้ำแห่งนี้ได้รับความสนใจจากผู้คนที่เลื่อมใสศรัทธา นอกจากนั้นยังมีความเชื่อด้วยว่าสามารถเดินทะลุถ้ำนี้ไปยังประเทศประเทศลาวได้
 
ที่อยู่ ตำบลนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม อุบลราชธานี 
 

 
5. ถ้ำพญานาคราช จังหวัดขอนแก่น
 
ภาพจาก : Facebook ขอนแก่นมหาคร
 
ถ้ำพญานาคราช ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูผาม่าน เป็นถ้ำที่มีช่องทางเข้าได้สองทาง มีขนาดใหญ่พบประติมากรรมถ้ำสวยงามมากมาย เช่น หินงอก หินย้อย เสาหินขนาดใหญ่บริเวณกลางถ้ำ ม่านหินและ ทำนบหินปูน ภายในถ้ำมืดสนิท ดังนั้น การเข้าไปเที่ยวภายในถ้ำ จำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์ เช่น ไฟฉายเข้าไปด้วย และควรต้องมีมัคคุเทศก์ และเส้นทางเดินภายในถ้ำที่ยังสามารถเดินทะลุไปยังถ้ำเกร็ดแก้วได้ ซึ่งเป็นถ้ำหินงอกหินย้อยที่สวยงามไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวสายรักการผจญภัยไม่ควรพลาดอย่างยิ่งการสำรวจถ้ำแห่งนี้
 
ที่อยู่ ตำบลนาหนองทุ่ม อำเภอชุมแพ ขอนแก่น
 

 
6. ถ้ำละว้า จังหวัดกาญจนบุรี
 
ถ้ำละว้า ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ถูกค้นพบโดย นายผิน ดอกเข็ม เมื่อปี พ.ศ. 2466 ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณที่ตั้งของถ้ำละว้า เป็นถ้ำที่มีปากถ้ำแคบ มีทางเข้า-ออกทางเดียว ภายในกว้างขวาง ติดไฟฟ้าส่องสว่างตามทางเดิน ด้านในจะพบประติมากรรมถ้ำสวยงาม เช่น ทำนบหินปูน ม่านหินย้อย ไข่มุกถ้ำ เสาหิน ภายในถ้ำแบ่งออกเป็น 5 ห้อง ประกอบด้วย 1). ห้องหนุมาน 2). ห้องจระเข้ 3). ห้องดนตรี 4). ห้องค้างคาว 5). ห้องม่านบรรทม นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาเดินสำรวจถ้ำได้ภายในระยะเวลาประมาณ 45 นาที โดยภายในถ้ำมีการติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างตลอดทาง
 
ที่อยู่ ตำบลวังกระแจะ อำเภอไทรโยค กาญจนบุรี 
 
 
 
7. ถ้ำพระโพธิสัตว์ จังหวัดสระบุรี
 
ถ้ำพระโพธิสัตว์ ภายในจะพบประติมากรรมถ้ำ เช่น หินงอก หินย้อย เสาหิน ม่านหินย้อย นอกจากนี้ ยังพบภาพแกะสลักโบราณสมัยทวารวดีที่ผนังถ้ำ เป็นภาพพระพุทธรูปปางแสดงธรรมเทศนา ช่วงยุคที่ศาสนาพุทธมีความรุ่งเรือง  ซึ่งกรมศิลปากรประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อ พ.ศ. 2508 
 
ถ้ำนี้ตั้งอยู่ในบริเวณวัดถ้ำพระโพธิสัตว์ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ที่โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติเนื่องจากบริเวณวัดล้อมรอบด้วยภูเขา แนะนำอย่างยิ่งหากต้องการศึกษาแหล่งโบราณสถานที่ทรงคุณค่า และชื่นชอบความธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่น 
 
ที่อยู่ ตำบลทับกวาง อำเภอแก่งคอย สระบุรี 
 

 
8. ถ้ำธารน้ำลอด จังหวัดชุมพร
 
ถ้ำธารน้ำลอด มีลำธารไหลผ่านถ้ำตลอดทั้งปี สามารถเข้าไปเที่ยวได้ช่วงต้นเดือนเมษายนเท่านั้น ช่วงฤดูฝนธารน้ำมีระดับสูงไม่เหมาะกับการท่องเที่ยว ส่วนฤดูแล้งสามารถเดินเข้าไปชมความสวยงามของถ้ำได้ ภายในถ้ำพบประติมากรรมถ้ำที่สวยงาม เช่น หินย้อย หินงอก ม่านหินย้อย และม่านหินปูน เป็นต้น นอกจากนี้ หากเดินขึ้นไปไหว้พระใหญ่จะเห็นภูมิประเทศที่สวยงามที่เกิดจากการยุบตัวของถ้ำเดิม เรียกว่า “หลุมยุบ”
 
ภายในถ้ำมีการสำรวจและสันนิษฐานว่ามีร่องรอยของมนุษย์ในยุคหิน ยุคดินเผา หรือยุคอื่น เพราะว่ามีชาวบ้านมักพบเจอสิ่งของภายในถ้ำหลายอย่าง เช่น หม้อดินโบราณ เครื่องประดับ อย่างเช่น ลูกปัด กำไลข้อมือข้อเท้า เป็นต้น
 
ที่อยู่ ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี ชุมพร 
 

 
9. ถ้ำภูผาเพชร จังหวัดสตูล
 
ถ้ำภูผาเพชร หนึ่งในพื้นที่อุทยานธรณีโลกสตูล ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ติดอันดับ 4 ของโลก ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัด มีช่องทางเข้าถ้ำขนาดเล็ก ลอดเข้าไปได้ครั้งละ 1 คน ภายในถ้ำมีขนาดใหญ่ เพดานถ้ำสูงโปร่ง มีอากาศถ่ายเทค่อนข้างสะดวก เนื่องจากมีปล่องแสงในถ้ำหลายแห่ง พร้อมด้วยสะพานไม้ประดับไฟส่องสว่างนำทาง ประติมากรรมถ้ำถูกธรรมชาตินำมาจัดเรียงตามโถงถ้ำขนาดใหญ่ 10 ห้อง ประกอบด้วย 1). ห้องเสาค้ำสุริยันและห้องหัวพญานาค 2). ห้องม่านเพชร 3). ห้องเห็ดและปะการัง 4). ห้องวังค้างคาวและโดมศิลาเพชร 5). ห้องดอกบัวคว่ำ 6). ห้องลานเพลิน 7). ห้องอ่างศิลาเล็ก 8). ห้องอ่างศิลาใหญ่ 9).ลานแสงมรกต 10).ห้องพญานาคพัน ซึ่งจุดเด่นจะอยู่ที่ห้อง “ลานแสงมรกต” ซึ่งด้านในลึกสุดของถ้ำ จะพบช่องตรงเพดานถ้ำ เมื่อมีแสงธรรมชาติจากภายนอกเข้ามากระทบกับหินงอกหินย้อยสีเขียว จะทำให้บริเวณนี้กลายเป็นลานสีเขียวมรกตสวยงาม
 
ที่อยู่ ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง สตูล 
 

 
10. ถ้ำเขาช้างหาย จังหวัดตรัง
 
ถ้ำเขาช้างหาย มีช่องทางเข้าและออกจากถ้ำคนละเส้นทาง ถ้ำลึกประมาณ 500 เมตร อยู่ภายใต้เขาหินปูนเล็กๆ เรียกว่าเขาช้างหาย เป็นภูเขาโดดเดี่ยวกลางที่ราบลุ่ม แต่ละปีจะมีผู้คนเดินทางเข้ามาชมถ้ำแห่งนี้จำนวนมาก เนื่องจากเต็มไปด้วยประติมากรรมทางธรรมชาติสุดตระการตาภายในถ้ำ เช่น หินงอก หินย้อย ไข่มุกถ้ำ และเสาหินจำนวนมาก โถงหลักแบ่งออกเป็น 3 ห้อง ซึ่งจะพบถ้ำใหญ่ๆ ภายในนั้นถึง 6 ถ้ำด้วยกัน ได้แก่ 1).ถ้ำช้างหาย 2).ถ้ำเพกา 3).ถ้ำทรายทอง 4).ถ้ำโอ่ง 5).ถ้ำลม 6).ถ้ำแม่เฒ่าคล้าย ซึ่งล้วนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถเข้าเยี่ยมชมได้สะดวก ภายในถ้ำมีทางเดินคอนกรีตพร้อมติดไฟตามเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยว 
 
ที่อยู่ ตำบลนาหมื่นศรี อำเภอนาโยง ตรัง
 

 
11. ถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน

ถ้ำในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา มีถ้ำอยู่หลายแห่ง ได้แก่ ถ้ำผาแดง ถ้ำรวยสายไทย ถ้ำผาฆ้อง ถ้ำยอดวิมาน ซึ่งแต่ละถ้ำมีความโดดเด่นสวยงาม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวดังนี้ ถ้ำผาแดงเป็นถ้ำที่มีความยาวมากที่สุด ถ้ำรวยสายไทยภายในถ้ำมีลำธารไหลผ่านเชื่อมถึงกัน ถ้ำผาฆ้องเป็นถ้ำขนาดกลางภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยและลำธารไหลผ่าน ถ้ำยอดวิมานมีหินงอกหินย้อยตลอดทาง ถ้ำผาฆ้องเป็นถ้ำขนาดกลาง ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยและลำธารไหลผ่าน
 
ที่อยู่ ปัว - บ่อเกลือ ตำบล ภูคา อำเภอปัว น่าน 
 
นอกจาก ถ้ำสวย ที่นักธรณีวิทยา แนะนำ แล้ว ในการเดินทางไปเที่ยวถ้ำ ก็เหมือนการเข้าอุทยานแห่งชาติ มีกฎ กติกา ในการเข้าใช้บริการ เพื่อให้ธรรมชาติที่สวยงามยังคงอยู่กับเราไปได้อีกนาน และอย่าลืมกับ 16 ข้อห้าม และข้อควรปฎิบัติในการเที่ยวถ้ำ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคนที่จะไปเที่ยวถ้ำได้ระมัดระวังและช่วยดูแลกัน
 

 
1. ห้ามสัมผัสหรือแตะต้องประติมากรรมถ้ำ เช่น หินงอก หินย้อย เสาหิน รวมทั้ง หยดน้ำที่หยดจากหินย้อย
2. ห้ามตี เคาะ ทำลายหินในถ้ำ
3. ห้ามสูบบุหรี่ ก่อกองไฟ จุดธูปเทียน หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อสภาพอากาศภายในถ้ำ
4. ห้ามนำอาหารเข้าไปรับประทานในถ้ำรวมทั้งทิ้งเศษขยะมูลฝอยใดๆ
5. ห้ามส่งเสียงดังหรือกระทำการใด ๆ ที่เป็นการรบกวนหรือก่อความรำคาญให้แก่สัตว์ รวมทั้งห้ามยิงปืน จุดประทัดและ วัตถุระเบิด
6. ห้ามนำสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์พาหนะเข้าไปในถ้ำ
7. ห้ามขีดเขียน ขูดลบ ขีดฆ่า ทาหรือ พ่นสี หรือปิดประกาศ
8. ห้ามถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะในถ้ำ
9. ห้ามเก็บหรือนำสิ่งใด ๆ ออกจากถ้ำ อาทิ หิน ผลึกแร่ ซากดึกดำบรรพ์ โบราณวัตถุ หรือสิ่งมีชีวิตภายในถ้ำ
10. ห้ามกระทำการใด ๆ อันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงทางน้ำหรือสร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำที่จะทำให้น้ำท่วมล้น หรือเหือดแห้ง เว้นแต่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานเจ้าของพื้นที่
11. ห้ามตั้งแคมป์พักแรมภายในถ้ำ
12. ห้ามเดินออกนอกเส้นทางที่กำหนด
13. ไม่แตะต้องและ/หรือทำลายระบบไฟฟ้าในถ้ำ
14. ไม่รบกวนแหล่งโบราณคดีหรือซากดึกดำบรรพ์ที่พบในถ้ำ
15. ไม่ก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สะพาน ทางเดิน บันได เว้นแต่การก่อสร้างเพื่ออำนวยความสะดวก/ความปลอดภัยเท่าที่จำเป็น และให้มีความกลมกลืนกับสภาพธรรมชาติในถ้ำ
16. ให้มีผู้นำเที่ยวถ้ำท้องถิ่นที่ผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐาน Local Cave Guide และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
 
ติดตาม ข่าวสารเกี่ยวกับข้อมูลธรณีวิทยาและทรัพยากรธรณี ได้ที่  FB แฟนเพจ: กรมทรัพยากรธรณี https://www.facebook.com/DMRTH
 
 
เกาะติดข่าวที่นี่

 

website: www.TNNTHAILAND.com 
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live 
twitter : TNNONLINE 
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE 
Instagram : TNN_ONLINE 
TIKTOK : @TNNONLINE

 
 
 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

>>>  Unseen ถ้ำนาคา บึงกาฬ เปิดตำนานพญานาค ความเชื่อ และความงามสุดลึกลับ

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง