TIDLOR หุ้น IPO น้องใหม่! วิ่งติดลมบนหรือไม่
TNN ช่อง16
26 เมษายน 2564 ( 07:16 )
416
กระแสตอบรับถล่มถลายสำหรับหุ้น IPO น้องใหม่ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) โดยวันนี้ (26เม.ย.) เปิดจองเป็นวันสุดท้าย หรือสิ้นสุด ณ เวลา 16.00 น. ซึ่งหุ้นที่จัดสรรให้นักลงทุนรายย่อยมีจำนวน 46.5 ล้านหุ้น หรือ 5.1%จากหุ้น IPOทั้งหมด 907.42 ล้านหุ้น หรือไม่เกิน 39.1% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด
ซึ่งภายหลังจากที่เปิดจองตั้งแต่วันนี้ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันยอดจองล้นทะลัก โดยมีผู้สนใจเกินกว่า46,500 ราย ดังนั้นจะใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของ settred.com สุ่มเลือก หรือ Random
ให้แก่ผู้จองซื้อหุ้นให้รายละ 1,000 หุ้น จากเดิมที่ใช้วิธีจัดสรรหุ้น Small Lot First เหมือน OR โดยทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการจัดสรรหุ้นในครั้งนี้ก็ชวดซะแล้ว ซึ่งหมายความว่ามีบางคนที่จองซื้อแล้วมีสิทธิ์วืดไม่ได้หุ้นเหมือนคนอื่น ดังนั้นนักลงทุนรายย่อยต่างก็ลุ้นกันว่าผู้บริหารและที่ปรึกษาทางการเงินจะดึงหุ้นส่วนเกินหรือกรีนชูอีก 136.11 ล้านหุ้นมาจัดสรรเพิ่มเติมให้กับผู้ถือหุ้นรายย่อยเหมือน OR หรือไม่
แต่ดูแล้วความหวังรายย่อยจะได้จัดสรรหุ้นเพิ่มริบหรี่ หลังจาก นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการประธานสายงานตลาดทุน บล.เกียรตินาคินภัทร ซึ่งเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับเงินติดล้อออกมาระบุว่า การจัดสรรจัดสรรหุ้นส่วนเกิน ซึ่งเป็นการยืมหุ้นจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ Siam Asia Credit Access Pte. Ltd. จำนวนไม่เกิน 136.11 ล้านหุ้น จากที่ต้องเตรียมไว้พยุงหุ้นช่วงตลาดผันผวนและราคาต่ำกว่าราคาจองมาจัดสรรปันส่วนให้รายย่อยเพิ่มนั้น คงเป็นไปได้ยากซะแล้ว เพราะต้องดูองค์ประกอบหลายปัจจัย ทั้งดีมานด์นักลงทุน สถาบันทั่วโลก รายย่อย ความผันผวนของตลาด เสถียรภาพในตลาดรอง ถ้าตลาดผันผวน ใครจะขายหุ้นก่อน แหม...ก็เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่ารายย่อยต้องขายก่อนแน่นอน ส่วนสถาบันถ้าหุ้นตกก็เป็นจังหวะเข้าซื้อเพิ่ม และขณะนี้ดีมานของนักลงทุนสถาบันสูงมากทั้งในและต่างประเทศเกินแสนล้านบาท ถ้าดูในดีลอื่นๆ กรีนชู ยกเว้น OR ก็จะจัดสรรให้สถาบันอยู่แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้สรุปได้เลยว่า แม้จัดสรรหุ้นเพิ่ม แต่ก็ต้องให้กับนักลงทุนสถาบันก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ถือหุ้นระยะยาว ถ้าเหลือถึงจะให้รายย่อย เปรียบเทียบเหมือนกับแจกบัตรคิว สถาบันก็จะได้คิวแรกๆ ไปก่อนแล้ว จะตกถึงมือรายย่อยนั้นคงลำบากแสนเข็ญ ถ้าเป็นอย่างนี้ใครที่จองหุ้นไปแล้วอาจต้องผิดหวังที่จองแล้วไม่ได้หุ้น และหากชอบหุ้นตัวนี้จริงก็คงต้องทำใจรอซื้อจังหวะช้อนซื้อในช่วงที่ราคาร่วงหรือหันไปซื้อหุ้นตัวอื่นในกระดานที่พื้นฐานแกร่ง แนวโน้มกำไรเติบโตมาแทนที่อาจจะได้กำไรมากกว่าการจองหุ้น TIDLOR ก็เป็นได้
หากถามว่าหุ้นเงินติดล้อน่าลงทุนมั้ย คำตอบคือเป็นหุ้นที่น่าสนใจ หากซื้อเพื่อถือลงทุนระยะยาว แต่ถ้าต้องการเก็งกำไรระยะสั้น ขายเมื่อหุ้นเข้าเทรดในตลาดแล้วหล่ะก็ คงได้รับผลตอบแทนไม่มากนัก เพราะช่วงนี้ก็รู้ ๆ กันอยู่ว่าตลาดผันผวนจากปัจจัยภายในประเทศ โดยเฉพาะผู้ติดเชื้อโควิดที่ยังพุ่งไม่หยุด ซึ่งหากใครยังอยากวัดดวงก็ลองดูเผื่อระบบคอมพิวเตอร์แรมดอมแล้วดวงดีโป๊ะเชะได้หุ้นที่จองไว้มาลุ้นวันเทรดก็ไม่เสียหายอะไรเหมือนลุ้นรางวัล
โดยกำหนดการจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 หุ้น ราคา 36.50 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 36,500 บาทไม่จำกัดจำนวนหุ้นที่จองซื้อต่อหนึ่งใบจอง เคาะราคาขายสุดท้ายวันที่ 28 เม.ย.นี้ พร้อมกับประกาศผลการจัดสรรและรายชื่อผู้จองซื้อรายย่อยที่ https://www.settrade.com ภายในวันที่ 28 เม.ย.เช่นกัน และเทรดในตลาดฯ 10 พ.ค.นี้ โดยผู้ที่จองเกิน 1,000 หุ้นและไม่ได้รับสิทธิ์จัดสรรจะได้รับเงินคืนไม่เกิน 13 พ.ค.หรือกรณีออกเช็กจะได้เงินคืนไม่เกิน 18 พ.ค.
สำหรับใครอยากเสี่ยงจองเผื่อฟลุ๊กได้ก็สามารถจองซื้อผ่านธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และบล.กรุงศรีอยุธยา (เฉพาะผู้มีบัญชีหลักทรัพย์)โดยขั้นตอนการจองซื้อหุ้น TIDLOR ผ่านออนไลน์ โดยสามารถจองผ่านช่องทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา ด้วยการเปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา และใช้โมบายแอปพลิเคชั่นKMA (มีบัญชีและแอปอยู่แล้วใช้ได้เลย)กรณีเปิดปัญชีและดาวน์โหลดแอปใหม่ สร้างโปรไฟล์ (มีอยู่แล้วไม่ต้องสร้างใหม่) >> ประเมินความเสี่ยงลงทุน ที่เมนู หุ้นกู้/พันธบัตร >> กดจองซื้อหุ้นเมนู ตราสารหนี้/ตราสารทุน >> เลือกหุ้น TIDLOR >> จ่ายเงิน >> เลือกวิธีรับหุ้น
โดยสามารถดูขั้นตอนการจองซื้อหลักทรัพย์ ได้ที่ www.krungsri.com/th/TIDLOR-IPO สำหรับบุคคลที่เป็นลูกค้าของบริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน)สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ที่ https://www.krungsrisecurities.comขณะเดียวกันก็สามารถจองซื้อผ่านธนาคารกสิกรไทย โดย เปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย >>จองผ่านเว็บไซต์ https://www.kasikornbank.com/kmyinvest >>เลือกจ่ายเงินผ่านโมบาย แอป KPlus
ส่วนวิธีการรับ-ซื้อขายหุ้นนั้น หากนักลงทุนที่มีพอร์ตลงทุนหุ้นกับโบรกเกอร์อยู่แล้ว ให้เลือกรับหุ้นเข้าบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ แต่หากไม่มีพอร์ตขั้นตอนเลือกรับหุ้นที่สะดวกคือ เลือกเข้าบัญชี 600 ซึ่งเป็นบัญชีซื้อขายหุ้นที่ฝากไว้กับศูนย์รับฝากหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (TSD)หลังจากนั้นเปิดพอร์ตหุ้นกับโบรกเกอร์ โอนหุ้นจากบัญชี 600 เพื่อซื้อขายหุ้น
อย่างไรก็ตาม หุ้น TIDLOR มีความน่าสนใจลงทุนมากน้อยแค่ไหนนั้น TNNONLINE ได้เช็กความเห็นกูรูตลาดทุนเพื่อประกอบการพิจารณาการลงทุนส่วนใหญ่มีทิศทางสอดคล้องกัน ประเดิมที่ "นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ" ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) มองว่า น่าสนใจลงทุน โดยจุดเด่น1. tidlor มีพอร์ตจำนำทะเบียนรถยนต์และรถบรรทุกใหญ่กว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรม
2. มีรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่แข็งแกร่ง และมีผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น (บัตรกดเงินสด) เนื่องจากมีการลงทุนระบบ IT อย่างต่อเนื่อง3. มี BAY เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ส่งผลให้ tidlor มี TRIS rating ที่ A- สูงกว่าคู่แข่ง MTC และ SAWAD ที่ได้ rating BBB+4. คุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง มีระดับสำรองต่อ NPL สูงกว่าคู่แข่ง
ข้อเสีย คือ1.สาขาน้อยกว่าคู่แข่ง 2.pe อาจจะสูงกว่าคู่แข่ง แต่คาดว่าหลังจากเข้าตลาด แนวโน้มกำไรมีโอกาสเร่งขึ้น และส่วนแบ่งการตลาดจะเพิ่มขึ้นจากเปิดสาขาใหม่
สอดรับกับ "นายเอนกพงศ์ พุทธาภิบาล" ผู้ช่วยผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซียพลัส มองว่า ราคาหุ้นที่หลายคนมองว่าแพง แต่แนวโน้มธุรกิจมีโอกาสเติบโต เช่น การขยายสาขาจากปัจจุบัน 1,000 สาขา จะเพิ่ม 3 ปีอีก 500 สาขา เพิ่มขึ้น 50% ขณะที่ MTC ปัจจุบันมี 5,000 สาขา และจะเพิ่มอีก 600 สาขา ในอีก 3 ปีข้างหน้า หรือเพิ่มขึ้น 30% ส่วน SAWAD นั้น มีสาขาขณะนี้ 5,000 สาขาอนาคตจะเพิ่มมากกว่า 100 สาขาต่อปี
นอกจากนี้จุดเด่นของ TIDLOR คือด้านดิจิทัล โดยใช้แอพพลิเคชั่นเงินติดล้อ ในการปล่อยสินเชื่อโดยมีการลงทุนด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องขณะเดียวกันการเป็นตัวแทนนายหน้าขายประกันทำให้รายได้เติบโตดี สะท้อนจากค่าธรรมเนียมเพิ่ม 40% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และเปิดโอกาสให้ลูกค้าที่ไม่มีบัตรเครดิตสามารถผ่อนชำระค่างวดการซื้อประกันได้เป็นการจูงใจคนหันมาใช้บริการมากขึ้น
ส่วนการคิดอัตราดอกเบี้ยนั้นพบว่า SAWAD จับมือ กับธนาคารออมสินเคาะดอกเบี้ยสินเชื่อจำนำทะเบียน 18% เริ่มตั้งแต่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมาแต่ล่าสุดได้ปรับลดเพดานดอกเบี้ยเคาะเรียกลูกค้าแบบชิว ๆ 15% ในช่วง 3 เดือน ทำให้ MTC นั่งไม่ติดต้องปรับลดดอกเบี้ยลงตามเพื่อรักษาฐานลูกค้าไว้เหมือนกัน ส่วน TIDLOR และSAK นั้น คาดว่าน่าจะปรับลดอกเบี้ยลงตามเร็ววันนี้ อย่างไรก็ตาม การที่รายได้จากค่าธรรมเนียมที่ลดลงจะทำให้ผู้เล่นในตลาดหาช่องทางอื่น ๆ ในการปั๊มรายได้เพิ่ม เช่น การขยายสาขา เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อเพิ่ม
ทั้งนี้หากแกะดูพอร์ตสินเชื่อของ MTC พบว่า แบ่งเป็นจำนำรถจักรยานยนต์ 34% รถยนต์ 33% การเกษตร 4% ที่ดิน 7% บุคคล 10% และนาโนไฟแนนซ์ 11% SAWAD รายได้มาจาก รถยนต์ 41% จำนำรถจักรยานยนต์ 17% บ้านและที่ดิน 37% และนาโนไฟแนนซ์ 5% TIDLOR รถยนต์ 64% รถจักรยานยนต์ 12% อื่นๆ 24% รวมรถบรรทุก สินเชื่อบุคคล และตัวแทนนายหน้าประกัน
ถือว่า TIDLOR เป็นหุ้นไอพีโออีกตัวหนึ่ง ที่นักลงทุนตั้งความหวังว่าจะช่วยสร้างกำไรได้ ในภาวะที่พอร์ตแดงเถือกจากโควิด เพราะแนวโน้มธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตได้ต่อเนื่อง แต่จากเศรษฐกิจในภาพรวมที่ยังมีความผันผวนอย่างมาก ประกอบกับภาระหนี้ครัวเรือนที่สูงเป็นประวัติการณ์ ก็เป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องระวังว่าจะเป็นปัจจัยลบ สกัดให้ TIDLOR ไม่สามารถวิ่งฉิวได้อย่างที่คาดหวังไว้