รีเซต

ทหารเกณฑ์ถูก 11 พลทหารในเรือนจำ รุมทำร้ายจนเสียชีวิต แม่ปล่อยโฮ หวั่นลูกตายฟรี

ทหารเกณฑ์ถูก 11 พลทหารในเรือนจำ รุมทำร้ายจนเสียชีวิต แม่ปล่อยโฮ หวั่นลูกตายฟรี
มติชน
26 พฤศจิกายน 2565 ( 12:51 )
100
ทหารเกณฑ์ถูก 11 พลทหารในเรือนจำ รุมทำร้ายจนเสียชีวิต แม่ปล่อยโฮ หวั่นลูกตายฟรี

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีแม่ของพลทหารนายหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี ร้องขอความเป็นธรรม ให้กับลูกชาย หลังถูกพลทหารที่ต้องโทษด้วยกันถึง 11 คน รุมทำร้ายลูกชายตนเองในเรือนจำ ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต จึงมีความกังวลใจว่าคดีจะเงียบหาย และลูกชายจะตายฟรี

 

โดยวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังวัดทุ่งหลวง ตำบลทุ่งพง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี พบกับ นางสมศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี แม่ของ พลทหาร ขจรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 3 ของการจัดงานศพให้กับลูกชาย ก่อนจะทำการฌาปนกิจ ศพของลูกชายในช่วงบ่าย 3 โมงเย็นนี้ (15.00 น. 26 พฤศจิกายน) บรรยากาศ ภายในงานยังคงเต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีบรรดาญาติพี่น้องในครอบครัวมาคอยช่วยกันจัดเตรียมงาน

 

นางสมศรี เล่าว่า พลทหารขจรศักดิ์ เป็นลูกชายคนโต ได้รับการสมัครเป็นทหารเกณฑ์ ผลัด 2 เมื่อ พ.ศ. 2563 ก่อนถูกส่งไปที่ค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากนั้นได้สังกัด กอง สพบ.พล.ร.4 ต่อมาปี 2564 พลทหารขจรศักดิ์ได้ลาพักไปเยี่ยมภรรยาที่ จังหวัดสุโขทัย แล้วเกิดไปกระทำความผิดคดีลักทรัพย์ เงินประมาณ 500 บาท ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวส่งกลับไปยังต้นสังกัด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายของทหาร ก่อนถูกศาลทหารตัดสินให้ต้องโทษเรือนจำที่ค่ายทหาร ทั้งหมด 13 เดือน ซึ่งจะพ้นโทษในวันที่ 15 ธันวาคม 2565 นี้ โดยหากลูกชายไม่ได้รับลงโทษดังกล่าว ก็จะได้รับการปลดจากทหารเกณฑ์ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา

 

นางสมศรี เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ ได้โทรศัพท์ไปเยี่ยมพลทหารขจรศักดิ์ เมื่อช่วงปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา โดยพูดคุยกันเรื่องการพ้นโทษและปลดประจำการ จากนั้นวันที่ 10 พฤศจิกายน ตนเองได้โทรกลับไปสอบถามจ่าเรื่องวันพ้นโทษของลูกที่แน่ชัดว่าจะได้พ้นโทษวันไหน ทางจ่าบอกว่าขอไปถามที่เรือนจำก่อน จนกระทั่ง วันที่ 15 พฤศจิกายน จ่าคนดังกล่าว ได้โทรศัพท์ มาบอกว่าลูกชายของตนจะได้ออกจากเรือนจำในวันที่ 15 ธันวาคม นี้ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 พฤศจิกายน ตนเองได้รับโทรศัพท์จาก ผู้บัญชาการเรือนจำว่า จะเข้ามาเยี่ยมหาตนเองที่บ้าน ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกตกใจและถามกลับไปว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่า พลทหารกระทำอะไรผิดหรือไม่ หรือเกิดเหตุอะไรกับพลทหาร

 

พอหลังจากวางสายจากผู้บัญชาการเรือนจำแล้ว ทางผู้ใหญ่บ้านก็ได้โทรหาตนเอง พร้อมกับบอกว่าให้โทรไปหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่พิษณุโลก พอหลังจากที่ตนโทรไปแล้ว ก็ได้คำตอบว่า ลูกชายตนเองที่เป็นพลทหารนั้น เสียชีวิตที่โรงพยาบาลค่ายสมเด็จพระนเรศวรมหาราช จังหวัดพิษณุโลก ตอนนั้นตกใจมาก หลังจากนั้น ก็มีหน่วยงานทางทหารมารับตนเองที่บ้านที่จังหวัดอุทัยธานี เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดพิษณุโลก โดยได้แวะไปที่ โรงพยาบาลพุทธชินราช เพื่อไปพบแพทย์ และได้รับแจ้งจากคุณหมอว่า ลูกชายตนเองได้รับบาดเจ็บจากถูกทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ตามที่หนังสือรับรองการตายจากโรงพยาบาลดังกล่าว

 

นางสมศรี กล่าวว่า ได้เข้าไปพูดคุยกับผู้บังคับบัญชาของลูกชายที่เรือนรับรองในค่าย เกี่ยวกับเรื่องการเสียชีวิตของลูกชาย โดยผู้บังคับบัญชาได้เล่าถึงเหตุว่าลูกชายตนเอง ถูกพลทหารที่ต้องโทษด้วยกันรุมทำร้ายจำนวน 11 คน และทั้ง 11 คนนั้น ทางหน่วยงานได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม และดำเนินคดีดังกล่าวแล้ว

 

ส่วนสาเหตุที่ลูกชายถูกพลทหารทั้ง 11 คน ที่เป็นนักโทษด้วยกันรุมทำร้ายจนเสียชีวิตนั้น ทราบสาเหตุว่ามาจากลูกชายของตนเองนั้น ไปหยิบฉวยกาแฟของพลทหารกลุ่มนั้นมากิน 2 ซอง จึงถูกรุมซ้อมทำร้ายจนเจ็บหนักและเสียชีวิต ซึ่งหลังรู้สาเหตุก็ยอมรับว่า ยังรับและทำใจไม่ได้ ทำไมลูกชายตนเองต้องมาจบชีวิตเพียงเพราะกาแฟแค่ 2 ซองเท่านั้นจริงๆหรือ ทำไมคนเราถึงใจคอโหดร้ายกันได้ถึงขนาดนี้

 

 

“โดย หลังเกิดเหตุการณ์ ทางค่ายทหารและทางเรือนจำก็ได้เข้ามาร่วมงาน พร้อมกับรับปากว่าจะช่วยเหลือครอบครัวอย่างเต็มที่ ซึ่งตอนแรกตนเองก็กังวลใจในเรื่องการเยียวยา เพราะเคยเห็นจากหลายๆข่าวที่ผ่านมาหลังเผาศพไปแล้วเรื่องก็เงียบหาย จึงกลัวว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวตนเองด้วยเหมือนกัน แต่หลังจากที่ทางผู้บัญชาการได้เข้ามาตกปากรับคำและยืนยันว่าจะดูแลด้วยเกียรติ ทำให้ตนเองเบาใจลงไปบ้าง เพราะมันเป็นสิ่งสุดท้ายที่ตนเองจะทำให้กับลูกชายคนนี้ได้แล้ว โดยช่วงบ่ายวันนี้ ทางผู้บัญชาการจะนำเงินจำนวน 200,000 บาท ซึ่งมาจากพลทหารที่ก่อเหตุทั้ง 11 ราย มามอบให้กับครอบครัว ส่วนเรื่องการเยียวยา ในส่วนอื่นๆนั้นจะทำการพูดคุยให้แน่ชัดอีกครั้ง” นางสมศรี กล่าว

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง