บอลถ้วยเอเชีย กางแผนฟาดแข่งสนามกลางหนีไวรัสโควิด-19
บอลถ้วยเอเชีย อย่างเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2020 ซึ่งยังแข่งรอบแบ่งกลุ่มไม่จบ แต่ต้องหยุดพักเบรกเพราะไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก กางแผนใหม่ใช้วิธีแข่งในสนามกลาง
บอลถ้วยเอเชีย อย่างการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2020 ต้องหยุดชะงัก เนื่องด้วยวิกฤติดังกล่าว รวมทั้ง "กว่างโซ้ง" สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด แชมป์ไทยลีก ปีที่แล้ว ที่อยู่กลุ่ม E เพิ่งเตะไป 2 นัด บุกแพ้ เมลเบิร์น วิคตอรี่ ทีมออสเตรเลีย 0-1 และเปิดบ้านแพ้ ปักกิ่ง กั๋วอัน จากจีน 0-1 ยังเหลือโปรแกรม 4 นัด โดยก่อนก่อนหน้านี้ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) กำหนดจะเริ่มเตะนัดที่ 3 วันที่ 19-20 พ.ค. จบรอบแรก ปลายเดือน มิ.ย.
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวระบุว่า ด้วยการแพร่ระบาดไวรัสในเอเชีย ที่ยังไม่น่าไว้ใจ เอเอฟซี มีแนวคิดจะปรับรูปแบบการแข่งขัน โดยสโมสรจากประเทศฝั่งเอเชียตะวันตก มีความเห็นว่า เปลี่ยนจากการเล่นเหย้า-เยือน มาเตะสนามกลาง จะใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ทว่าต้องรอความเห็นจากฝั่งเอเชียตะวันออก รวมทั้ง สิงห์ เชียงราย ของไทยด้วย เอเอฟซี จะส่งหนังสือสอบถามความเห็น ก่อนพิจารณาต่อไป
ผู้สื่อข่าวสอบถาม “บิ๊กฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาสโมสร สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ซึ่ง นายใหญ่ กว่างโซ้ง กล่าวว่า แนวคิดจากสมาชิกเอเอฟซี ฝั่งตะวันตก น่าสนใจ เพราะสถานการณ์เช่นนี้ควรมีทางออกต่างๆ ในแบบที่หลากหลาย ส่วนจะมาใช้กับฝั่งตะวันออกได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับปัจจัยว่า ถึงตอนนั้น ทีมจะได้ซ้อมกันหรือยัง ใครจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพ เพราะจะเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย ถ้าเคลียร์ตรงนี้ก็ไม่มีปัญหา
นายมิตติ กล่าวอีกว่า ในส่วนของสิงห์ เชียงราย ที่มีโปรแกรมเตะ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก อีกครั้ง ช่วงเดือนพ.ค. คิดว่าในความเป็นจริงไม่ได้เตะอยู่แล้ว เพราะจะไม่ได้ซ้อมร่วมกันอย่างน้อยจนไปถึงวันที่ 30 เม.ย. เมื่อใกล้ถึงช่วงแข่งขัน คงจะต้องทำหนังสือไปถึงเอเอฟซี เพื่อขอเลื่อนเตะออกไปก่อน
ส่วนกำหนดของการกลับมาเตะไทยลีก บิ๊กฮั่น กล่าวว่า ทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ได้วางกรอบไว้หลายรูปแบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์และมาตรการจากภาครัฐ แต่มองว่าก่อนจะถึงวันกลับมาเตะใหม่ สโมสรควรได้มีการเตรียมตัวฝึกซ้อมล่วงหน้าอย่างน้อย 4 สัปดาห์ และหากโปรแกรมต้องไปทับซ้อน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ อยากให้วางแผนการจัดแข่งขัน โดยคำนึงถึงสโมสรก่อน อย่าลืมว่าตอนนี้สโมสรไม่มีรายได้ ส่งผลกระทบไปถึงนักเตะด้วย จึงควรจะให้การแข่งขันบอลลีกจบลงด้วยดี แม้จะแข่งยืดเยื้อไปถึงพ.ย.-ธ.ค.ก็ตาม