BOI ส่งเสริมลงทุน Jurassic World ปั้นแลนด์มาร์กใหม่ กระตุ้นท่องเที่ยว
#ทันหุ้น - บีโอไอ อนุมัติส่งเสริมลงทุน โครงการ “Jurassic World: The Experience” แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มูลค่ากว่า 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ ปั้นเป็นแลนด์มาร์กระดับโลก สนับสนุนภาคท่องเที่ยวไทย เผยยอดส่งเสริมลงทุนกิจการกลุ่มท่องเที่ยวในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กว่า 200 โครงการ มูลค่าลงทุนกว่า 2 แสนล้านบาท
นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการ ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากบอร์ดบีโอไอ ได้อนุมัติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนโครงการสร้างแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ “Jurassic World: The Experience” ของบริษัท แอสเสท เวิรด์ แอทแทรคชั่น แอนด์ รีเทล จำกัด บริษัทในเครือของบริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร โดยโครงการนี้มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1,200 ล้านบาท บนพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในโครงการ เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เดสติเนชั่น ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังที่ได้รับความนิยมจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยบริษัทจะพัฒนาสถานที่ท่องเที่ยวดังกล่าวให้เป็นแลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ และประเทศไทย
โครงการดังกล่าวถือเป็นการลงทุนสร้างศูนย์กลางการท่องเที่ยวและความบันเทิงระดับโลกโดยบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของไทย ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแฟรนไชส์ภาพยนตร์ชื่อดัง “Jurassic World” จาก Universal Pictures และ Amblin Entertainment ที่ได้รับความนิยมทั่วโลก มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างไดโนเสาร์แอนิมาทรอนิกส์ที่มีการเคลื่อนไหวเสมือนจริง โดยใช้นวัตกรรมการออกแบบ 3 มิติ และใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ควบคุมการเคลื่อนไหว เพื่อให้ได้รับประสบการณ์ที่สมจริงมากที่สุด ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะแฟนคลับคนรักไดโนเสาร์ที่มีอยู่ทั่วโลก โดยโครงการนี้ถือเป็นประสบการณ์ความบันเทิงรูปแบบอิมเมอร์ซีฟที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก และเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
“ภาคการท่องเที่ยว ถือเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและนำเงินเข้าสู่ประเทศไทย โดยปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไทยมากกว่า 35 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 1.67 ล้านล้านบาท ในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฮับการท่องเที่ยวของภูมิภาค เราจำเป็นต้องเดินหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการท่องเที่ยวให้พร้อม ทั้งด้านบุคลากร คุณภาพของการบริการ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การจัดกิจกรรมนานาชาติหรืออีเวนต์ขนาดใหญ่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ รวมทั้งการสร้างแหล่งท่องเที่ยวแบบ Man-made ที่จะเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของประเทศ” นายนฤตม์ กล่าว
ทั้งนี้ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (พ.ศ. 2558 – 2567) บีโอไอได้ส่งเสริมลงทุนกิจการในกลุ่มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจำนวน 209 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 2 แสนล้านบาท ครอบคลุมทั้งกิจการโรงแรม ศูนย์ประชุมขนาดใหญ่ การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ศูนย์แสดงศิลปวัฒนธรรมไทย กิจการมหกรรม ดนตรี กีฬา และเทศกาลนานาชาติ รวมทั้งกิจการสวนสนุก