สปสช.เตรียมเพิ่มสายด่วน 2,000 สาย หากผู้ป่วยโควิดเพิ่มใน 2 สัปดาห์

วันนี้ (20 เม.ย.65) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยถึงสถานการณ์ของสายด่วน สปสช.1330 หลังจากหลายฝ่ายกังวล ว่าสถานการณ์หลังสงกรานต์จะมีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น 

ปัจจุบันสายด่วน 1330 มีผู้โทรศัพท์เข้ามาอยู่ที่วันละเกือบ 20,000 สาย ซึ่งถือว่าลดลงจากช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ ที่มียอดโทรศัพท์เข้ามาอยู่ที่วันละ 30,000 สายขึ้นไป ส่วนหนึ่งเชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะประชาชนเดินทางกลับบ้านในช่วงเทศกาลสงกรานต์

แต่จากการคาดการณ์เชื่อว่าภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์ หลังเทศกาลสงกรานต์ อาจจะมียอดของผู้ติดเชื้อโควิด-19 โทรศัพท์เข้ามาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งยังต้องจับตาว่ายอดตัวเลขจะเพิ่มขึ้นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม สปสช. ยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อ เพราะประชาชนส่วนใหญ่ที่พบเชื้อในขณะนี้ เป็นการพบเชื้อจากการตรวจด้วยชุดตรวจแบบ ATK ซึ่งพบว่า ผู้ที่ตรวจพบเชื้อจากการซื้อชุดตรวจมาตรวจด้วยตนเอง มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้ป่วยเหล่านี้ก็ยังคงสามารถเข้ามารับบริการ เจอ แจก จบ ผ่าน 2 ทางเลือก

คือ 1.สามารถเข้ารับการรักษาที่หน่วยบริการสุขภาพใกล้บ้าน และ 2.เข้ารับยารักษาที่ร้านขายยาที่ได้มีการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ แต่ที่ผ่านมายังคงประสบปัญหาในเรื่องของผู้ป่วย ที่ไม่ทราบว่าร้านขายยา หรือหน่วยบริการสุขภาพที่อยู่ใกล้บ้านนั้นอยู่บริเวณจุดใด ซึ่งทาง สปสช. อยู่ระหว่างการแก้ปัญหาโดยกำลังพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่สามารถค้นหาร้านยาใกล้บ้านได้ทันที ซึ่งอาจจะผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตังค์ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน และไม่ต้องโหลดแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ เพิ่ม

นอกจากนี้ สปสช.ได้มีการเตรียมความพร้อมด้วยการเพิ่มจำนวนผู้รับสายด่วน 1330 ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่อยู่ราว 650 คน ซึ่งลดลงจากช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่อยู่ที่ 850 คน แต่มีเจ้าหน้าที่สำรองไว้สำหรับเข้ามาดำเนินการอีกราว 2,000 คน 

ที่พร้อมจะเข้ามาปฏิบัติหน้าที่หากสถานการณ์ของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น รวมถึงเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องรับโทรศัพท์ของผู้ที่โทรเข้ามาที่สายด่วนทันที ไม่ให้เกิดกรณีสายหลุด หรือรอสายนาน และจะไม่มีการรับสายด้วยระบบอัตโนมัติอย่างเช่นที่ผ่านมา.

ภาพจาก แฟ้มภาพ TNN ONLINE