ลูกวอนช่วยแม่ แอบเป็น ผีน้อยที่เกาหลี ติดเชื้อในกระแสเลือด-ค่ารักษาแพง
ลูกสาววอนช่วยแม่ แอบเป็น ผีน้อยที่เกาหลี ติดเชื้อในกระแสเลือด-ค่ารักษาแพง เผยป่วยเป็นโรคปอด แต่ไม่พบเชื้อโควิด วอนสถานทูตพาแม่กลับมารักษาตัวที่ไทย
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาว อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ว่า มีคนในหมู่บ้าน เขต ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง เดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ และมีอาการป่วย อยากจะกลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย แต่ไม่สามารถเดินทางกลับมาได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบและช่วยเหลือด้วย
ต่อมาผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังนางศรีจันทร์ ปิงแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน บ้านดอนงาม หมู่ 8 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง จากการตรวจสอบทราบว่า บุคคลดังกล่าวชื่อ นางกุลหทัย เขื่อนแก้ว อายุ 49 ปี ชาวบ้าน หมู่ 8 ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง เป็นลูกบ้าน และเดินทางไปทำงานที่ประเทศเหลีใต้จริง ขณะนี้ป่วยรักษาตัวที่ รพ.ในกรุงโซล ประเทศเกาหลี อยากจะกลับมารักษาตัวที่บ้านในไทย แต่ยังติดขัดในเรื่องการเดินทางกลับ เนื่องจากสนามบินปิด จึงยังไม่สามารถเดินทางกลับมายังประเทศไทยได้
จากการสอบถามทางญาติทราบว่า ได้ติดต่อกันตลอดและหาทางช่วยเหลือ แต่ไม่รู้จักใคร จนกระทั่งมาทราบเรื่องจากชาวบ้านดังกล่าว และแจ้งให้ นายนเรศวร์ฤทธิ์ อุบลศรี นอภ.เสริมงาม เพื่อประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือแล้ว
ด้าน น.ส.ชมพูนุช อายุ 21 ปี ลูกสาวของนางกุลหทัย เปิดเผยว่า ที่บ้านอาศัยอยู่กัน 3 คน คือยาย แม่ และลูกสาว ส่วนพ่อเลิกกันกับแม่ไปแต่งงานใหม่นานแล้ว แม่ต้องทำงานรับภาระเลี้ยงดูยายและตนเอง จึงเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้เมื่อกลางปี 2560 ที่ผ่านมาเพื่อหาเงินมาใช้หนี้ ดูแลยายที่เป็นแม่และส่งเสียลูกเรียนหนังสือ
โดยก่อนเดินทางแม่มีโรคประจำตัวเป็นไอ โรคเกี่ยวกับปอด หอบเหนื่อยง่าย แต่อาการไม่รุนแรง จนกระทั่งเดินทางไปทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้มีอาการไม่สบายโรคกำเริบ เนื่องจากว่า ต้องทำงานตลอดเวลา ไม่มีเวลาพักผ่อน จนกระทั่งนายจ้างพาเข้ารักษาตัวที่ รพ.ในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้เมื่อ 2 อาทิตย์ ที่ผ่านมา
ซึ่งทางรพ.ตรวจร่างกายแล้วไม่พบเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ผลเป็นลบ และมีหนังสือรับรองยืนยันไม่เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 แต่เป็นโรคปอดและติดเชื้อในกระแสเลือด จึงอยากขอความช่วยเหลือติดต่อสถานทูตให้นำแม่กลับมารักษาตัวที่ประเทศไทย เนื่องจากต่างประเทศค่าใช้จ่ายรักษาแพง และไม่มีใครดูแล
“จากการสอบถามนายจ้าง เจ้าของที่ทำงานที่ประเทศเกาหลีใต้ ตอนนี้อาการของแม่ยังทรงตัว และค่ารักษาก็แพง แต่ทางนายจ้างบอกว่าจะรับผิดชอบจ่ายให้ส่วนหนึ่ง แต่ทางแม่ไม่มีเงิน การรักษาที่รพ.ทางแพทย์ก็ไม่ได้รักษาอะไร เพียงนอนรอดูอาการ
ซึ่งทางผู้ดูแลบอกว่า ทางแพทย์จะรักษาอาการให้ดีขึ้นกว่านี้ก่อน ให้ผู้ป่วยมีร่างกายแข็งแรงพอที่จะเดินทางกลับประเทศไทยได้ และบอกว่าโรคนี้มีโอกาสหาย ถ้ารักษากับแพทย์เฉพาะทางโดยตรง และรักษาถูกวิธี รีบรักษา แต่ตนห่วงว่าแม่จะป่วยหนักกว่าเดิม หากไม่รีบรักษา ทางแพทย์ก็รับปากว่าจะดูแลเต็มที่ ถ้าอาการผู้ป่วยดีขึ้นก็จะนำขึ้นรถมาส่งที่สนามบินนานาชาติอินชอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ แต่ห้ามเข้าประเทศเกาหลีใต้ภายในอีก 1 ปี เนื่องจากติดแบล็คลิสต์ แอบเข้าประเทศ”
น.ส.ชมพูนุช กล่าวต่อว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคจากเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มีการปิดสนามบิน และทางประเทศเกาหลีให้เดินทางกลับประเทศได้ แม่ได้เตรียมตัวเดินทางกลับประเทศไทยมาอยู่กับยายและลูก โดยจองตั๋วเครื่องบินได้วันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่มีอาการป่วยไม่สบายก่อนเดินทางกลับในวันดังกล่าว ต้องนอนพักรักษาตัวที่ รพ.จึงไม่ได้เดินทางกลับ และเลื่อนตั๋วเดินทางกลับไทย แต่ยังไม่รู้ว่าวันไหนจะได้กลับมา
ซึ่งจากการติดต่อพูดคุยกับแม่และคนที่ดูแลทราบว่า แม่ได้ตั๋วเครื่องบินจะเดินทางจากประเทศเกาหลีกลับประเทศไทยในวันที่ 1 พ.ค.นี้ โดยมีคนที่รู้จักกันไปรับที่สนามบิน คอยดูแลเรื่องที่สนามบิน ส่วนตนไม่สามารถไปรับแม่ได้ เนื่องจากต้องดูแลยายและไม่ทราบว่า แม่จะถูกกักตัว 14 วันตามมาตรการของรัฐหรือเปล่า เนื่องจากแม่มีอาการป่วยไม่สบายมีโรคประจำตัว แต่มีรายงานผลการตรวจร่างกาย ใบรับรองจากแพทย์ที่ประเทศเกาหลีไม่ใช่คนป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019
“ถ้ามีการกักตัวแม่เพื่อดูอาการเป็นเวลา 14 วัน ตามมาตรการของรัฐบาลก็ยอมรับ แต่อยากให้ทางแพทย์รักษาดูแลแม่ในระหว่างกักตัวด้วย เนื่องจากมีโรคประจำตัว และมีอาการติดเชื้อในกระแสเลือดต้องรีบรักษา หรือถ้าเป็นไปได้กลับมารักษาและกักตัวใกล้บ้านที่ จ.ลำปาง จะได้มีคนคอยดูแล จึงขอให้ทางราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแลในเรื่องนี้ด้วย” น.ส.ชมพูนุช กล่าว
นายนเรศวร์ฤทธิ์ อุบลศรี นอภ.เสริมงาม จ.ลำปาง กล่าวว่า ทาง อ.เสริมงาม จ.ลำปาง มีหนังสือด่วนที่สุด เรียน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ทราบแล้ว และมอบหมายให้ นายปิตุพงศ์ เทพวีระพงศ์ ปลัดอำเภอฝ่ายปกครอง อ.เสริมงาม ลงพื้นที่เดินทางไปตรวจสอบ หลังจากมีเรื่องดังกล่าวมีการเผยแพร่ทางสื่อโซเชียลขอความร่วมมือตามหาญาติของ นางกุลหทัย เขื่อนแก้ว ชาว ต.ทุ่งงาม อ.เสริมงาม จ.ลำปาง ซึ่งขณะนี้ป่วยหนักและรักษาตัว อยู่ที่โรงพยาบาลประเทศเกาหลี
โดยปลัด อ.เสริมงาม และ ผญบ.บ้านดอนงาม ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบ เพื่อให้ความช่วยเหลือ พบแม่และลูกสาวของนางกุลหทัย จากการสอบถามทราบว่า บุคคลดังกล่าวป่วยจริง แต่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคโควิด-19 และได้เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลประเทศเกาหลีและมีความต้องการที่จะเดินทางกลับประเทศไทยเมื่ออาการดีขึ้น แต่ประสบปัญหาด้านการติดต่อประสานงาน เนื่องจากเป็นแรงงานผิดกฎหมายประกอบกับไม่มีคนรู้จักในประเทศเกาหลีใต้
เบื้องต้นอำเภอเสริมงามประสานกับแรงงานจังหวัดลำปาง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณา ให้ความช่วยเหลือผลเป็นประการใดจะรายงานให้ทราบต่อไป