สหรัฐฯ พบอัตรา 'ฆ่าตัวตาย' สะท้อนเหลื่อมล้ำทางเชื้อชาติเพิ่มขึ้น
นิวยอร์ก, 15 ก.พ. (ซินหัว) -- สื่อท้องถิ่นสหรัฐฯ อ้างอิงบทวิเคราะห์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ รายงานว่าอัตราการฆ่าตัวตายในหมู่ชาวอเมริกันอินเดียน คนผิวดำ และชาวฮิสแปนิก เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2021 สวนทางกับอัตราการฆ่าตัวตายในหมู่คนผิวขาวที่ลดลงติดต่อกัน 3 ปีแล้ว
คณะผู้เขียนบทวิเคราะห์ ซึ่งเผยแพร่ผ่านรายงานรายสัปดาห์ว่าด้วยการเจ็บป่วยและเสียชีวิตของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ ระบุว่าข้อมูลนี้ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำของการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นทั่วสหรัฐฯ โดยศูนย์ฯ รายงานข้อมูลการฆ่าตัวตายเหล่านี้ครั้งแรกในปีก่อนจำนวนและอัตราการฆ่าตัวตายที่ปรับตามอายุเริ่มลดลงทั่วสหรัฐฯ ในปี 2019 แต่เพิ่มขึ้นในปี 2021 ซึ่งเพิ่มขึ้นจนเกือบแตะจุดสูงสุดในปี 2018 ที่มีผู้ฆ่าตัวตาย 14.2 รายต่อประชากรหนึ่งแสนคน
ศูนย์ฯ พบว่าการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นในปี 2021 เกิดขึ้นมากที่สุดในหมู่ชาวอเมริกันอินเดียนหรือชาวพื้นเมืองในอลาสกา โดยอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 จากปี 2018 คือมีผู้ฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้นจาก 22.3 ราย เป็น 28.1 ราย ต่อประชากรหนึ่งแสนคนนอกจากนั้นอัตราการฆ่าตัวตายในคนอเมริกันผิวดำยังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ คือเพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2 จากปี 2018 และอัตราการฆ่าตัวตายในชาวฮิสแปนิกหรือลาตินเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8คนผิวขาวที่ไม่ใช่ชาวฮิสแปนิกเป็นประชากรกลุ่มเดียวที่มีอัตราการฆ่าตัวตายที่ปรับตามอายุลดลงในทางสถิติ คือลดลงร้อยละ 3.9 หรือมีผู้ฆ่าตัวตายลดลงจาก 18.1 ราย เป็น 17.4 ราย ต่อประชากรหนึ่งล้านคน