รีเซต

ปภ. แจ้งเตือน 3 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก

ปภ. แจ้งเตือน 3 จังหวัดภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก
มติชน
20 มีนาคม 2565 ( 12:29 )
53

ข่าววันนี้ 20 มีนาคม 2565 เวลา 12.00 น. กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับ กรมอุตุนิยมวิทยาได้มีประกาศฉบับที่ 1 (50/2565) ลงวันที่ 20 มีนาคม 2565 แจ้งว่า ในช่วงวันที่ 20-22 มีนาคม 2565 หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไซโคลน คาดว่าจะเคลื่อนตัวทางทิศเหนือ เข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน เและเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

 

ทำให้มีลมพัดปกคลุมทางด้านตะวันตกของประเทศไทย ส่งผลให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นบริเวณภาคเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาตใต้ฝั่งตะวันออก และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) จึงได้ประสาน 3 จังหวัดภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคม 2565 ดังนี้

 

เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ได้แก่


– ระนอง ในพื้นที่ทุกอำเภอ
– พังงา ในบริเวณพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ ตะกั่วทุ่ง คุระบุรี กะปง ตะกั่วป่า และท้ายเหมือง
– ภูเก็ต ในบริเวณพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองภูเก็ต ถลาง และกะทู้
– กระบี่ ในบริเวณพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ เมืองกระบี่ เขาพนม และปลายพระยา

 

โดยได้ประสานให้จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า รวมถึงจัดเตรียมเครื่องมือเครื่องจักรกลสาธารณภัย และทีมปฏิบัติการเข้าประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมเผชิญเหตุ และช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที หากประเมินแล้วมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์รุนแรงในพื้นที่ ให้จังหวัดดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอย่างเคร่งครัด

 

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศ สถานการณ์ภัย และข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ให้เตรียมความพร้อมมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้น หากได้รับความเดือดร้อนจากสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอพพลิเคชั่น “พ้นภัย”รวมถึง สายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง