รีเซต

สธ.แจง 2 ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยโควิด 'มุกดาหาร-ศรีสะเกษ' เผย เร่งฉีดวัคซีนทะลุ 58,024 โดส

สธ.แจง 2 ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยโควิด 'มุกดาหาร-ศรีสะเกษ' เผย เร่งฉีดวัคซีนทะลุ 58,024 โดส
มติชน
18 มีนาคม 2564 ( 17:44 )
48
สธ.แจง 2 ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยโควิด 'มุกดาหาร-ศรีสะเกษ' เผย เร่งฉีดวัคซีนทะลุ 58,024 โดส

เมื่อวันที่ 18 มีนาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.เฉวตสรร นามวาท ผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค กล่าวถึงการระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ว่า กลุ่มก้อนการระบาดย่านบางแค นอกจากการค้นหาเชิงรุกในชุมชนแล้ว ส่วนหนึ่งที่เกี่ยวกับการสอบสวนโรคก็ยังได้ไปตรวจในโรงพยาบาล (รพ.) ด้วย สำหรับกรณีพบผู้ติดเชื้อรายแรกที่จังหวัดศรีสะเกษ 1 ราย และมุกดาหาร 1 ราย ซึ่งเป็นรายใหม่ ที่มีความเชื่อมโยงกับตลาดบางแค

 

ไทม์ไลน์ผู้ติดเชื้อใน จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นรายแรกของจังหวัด เพศหญิง อายุ 49 ปี อาชีพค้าผักที่ตลาดวันเดอร์ เขตบางแค กรุงเทพมหานคร (กทม.) ขายช่วง 02.00-12.00 น. อาศัยอยู่กับสามี มีเพื่อนขายของแผงข้างกัน ติดเชื้อโควิด-19 ด้วย

ในไทม์ไลน์พบว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. เดินทางออกจาก กทม. พร้อมสามีด้วยรถยนต์ส่วนตัวไปยัง จ.ศรีสะเกษ พักค้างคืนกับลูกชาย 2 คน เมื่อวันที่ 9-10 มี.ค. อาศัยอยู่ในบ้านพัก และร่วมรับประทานอาหารกับญาติที่อยู่บ้านติดกัน

 

เมื่อวันที่ 10 มี.ค. ช่วงบ่าย เดินทางไปซื้อวัสดุก่อสร้างกับสามี โดยสวมหน้ากากอนามัยพูดคุยกับพนักงาน แต่ฝ่ายพนักงานไม่ได้สวมหน้ากาก เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ทราบข่าวว่าเพื่อนแผงข้างๆ ติดเชื้อโควิด-19 ต่อมาวันที่ 12 มี.ค. อยู่บ้านพักที่ศรีสะเกษ และวันที่ 13 มี.ค. เดินทางพร้อมสามีและบุตรชายคนเล็ก ไปร้านวัสดุก่อสร้างอีกครั้งเพื่อเปลี่ยนสินค้า

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 มี.ค. เริ่มมีอาการเจ็บคอ ปวดศีรษะ เวลา 10.30 น. จึงเดินทางไปโรงพยาบาล (รพ.) ศรีสะเกษ พร้อมกับสามี บุตรชายคนเล็กและเพื่อนบ้าน เพื่อตรวจหาเชื้อ โดยได้ติดต่อห้องบัตรและคลินิกโรคทางเดินหายใจ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการระบุผู้สัมผัสที่ควรได้รับการตรวจหาเชื้อ โดยหลังการตรวจหาเชื้อ ก็ไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้า โดยสวมหน้ากากตลอดเวลา วัดอุณหภูมิ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์

 

เมื่อวันที่ 15 มี.ค. ร่วมงานทำบุญ 100 วันแม่สามี ร่วมรับประทานอาหารกับญาติ และช่วงสายเดินทางไปยังโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทุ่งสว่าง เพื่อขอตรวจหาเชื้อโควิด-19 พบกับเจ้าหน้าที่ 2 คน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ในเวลา 11.00 น. ทีม รพ.วังหิน เดินทางไปเก็บตัวอย่างที่บ้านผู้ป่วย

กระทั่ง เมื่อวันที่ 16 มี.ค.เวลา 18.00 น. รายงานผลการตรวจยืนยันจาก รพ.ศรีสะเกษพบเชื้อ ส่วนตรวจของสามีตรวจไม่พบเชื้อ รพ.ศรีสะเกษ จึงไปรับผู้ป่วยมาทำการรักษา ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 23 ราย เสี่ยงต่ำ 5 ราย เก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ แล้วทั้งหมดไม่พบว่ามีการติดเชื้อแต่อย่างใด จึงได้ให้คำแนะนำในการกักตัวที่บ้าน

 

นพ.เฉวตสรรกล่าวต่อว่า สำหรับรายละเอียด ผู้ติดเชื้อ 1 ราย ที่ จ.มุกดาหาร เป็นเพศหญิงอายุ 52 ปี อยู่อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เมื่อวันที่ 4 มี.ค.เวลา 08.00 น. เดินทางจากที่พัก อ.นิคมคำสร้อย ทำธุระที่กทม. พร้อมสามี โดยรถยนต์ส่วนตัว และพักที่บ้าน เขตบางบอน กทม. อยู่กับสามี ต่อมาวันที่ 5 มี.ค. ช่วง 12.00-17.00 น. เดินทางไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตบางขุนเทียน กทม. วันที่ 6-7 มี.ค. พักที่บ้านเขตบางบอน กทม. วันที่ 8 มี.ค. เวลา 08.00 น. ไปตรวจสภาพรถที่พุทธมณฑลสาย 4 กับสามี

วันที่ 9 มี.ค. พักที่บ้านเขตบางบอน กทม. วันที่ 10 มี.ค.เวลา 13.00 น. ไปสักคิ้วให้ลูกค้าที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในเขตบางคอแหลม กทม. วันที่ 11 มี.ค.เวลา 08.00 น. เดินทางไปกับสามีเพื่อต่อทะเบียนรถ (Drive to) เขตบางขุนเทียน เวลา 11.00-16.00 น. ไปสักคิ้วให้ลูกค้าที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในเขตบางคอแหลม กทม. วันที่ 12 มี.ค.เวลา 14.30-17.00 น. เดินทางไปห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในเขตบางขุนเทียน กทม. วันที่ 13 มี.ค.เวลา 13.00 น. ไปสักคิ้วให้ลูกค้าที่ร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งในเขตบางคอแหลม กทม.

 

วันที่ 14 มี.ค.เวลา 07.00 น. เดินทางออกจากบ้านพักเขตบางบอนโดยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมกับสามีระหว่างเดินทางได้แวะเติมแก๊ส NGV ที่ จ.สระบุรี ถึง จ.นครราชสีมา อ.พล จ.ขอนแก่น จ.ร้อยเอ็ด โดยแวะเข้าห้องน้ำในทุกจุดที่เติมแก๊ส เวลา 17.00 น. เดินทางถึงที่พัก อ.นิคมคำสร้อย ผู้ป่วยเริ่มมีอาการเจ็บคอเล็กน้อย จมูกไม่ได้กลิ่น ต่อมาวันที่ 15 มี.ค. พักอยู่ที่บ้าน ผู้ป่วยยังมีอาการเจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น วันที่ 16 มี.ค.เวลา 08.45 น. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว สามีเป็นคนขับเพื่อเข้ารับการรักษาที่ รพ.นิคมคำสร้อยและเดินทางกลับบ้าน เวลา 15.00 น. เก็บสิ่งส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการและนำตัวอย่างส่งตรวจที่ร พ.มุกดาหาร

 

วันที่ 17 มี.ค. เวลา 16.26 น. ผลตรวจยืนยันพบเชื้อโควิด-19 ต่อมา รพ.นิคมคำสร้อย รับผู้ป่วยส่งต่อการรักษาที่ รพ.มุกดาหาร และรับไว้ที่ห้องแยกโรคความดันลบ

“เมื่อพิจารณาความเสี่ยงพบว่าผู้ติดเชื้อเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงใน กทม. ถือเป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการเข้าข่ายเกณฑ์การสอบสวนโรค คือเจ็บคอ และจมูกไม่ได้กลิ่น ช่วงเวลาที่อยู่ กทม. และเดินทางมีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา แสดงว่าในจุดที่มีการสัมผัสมีการรับเชื้ออยู่พอสมควรจึงทำให้เกิดการติดเชื้อในครั้งนี้

 

“ทั้งนี้ จากการสอบสวนโรคที่มุกดาหารพบกลุ่มเสี่ยงสูง 17 ราย มีทั้งพ่อ แม่ น้องสะใภ้ หลาน 2 ราย แพทย์ที่ทำการตรวจ เภสัชกร เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือคนไข้ ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์มีการสวมชุดป้องกันที่ดีจริงๆ ความเสี่ยงก็ถือว่าค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตามทั่งหมดเก็บสิ่งส่งตรวจแล้ว ผลออกมา 1 ราย เป็นลบ ที่เหลือ16 รายอยู่ระหว่างการรอผลทางห้องปฏิบัติการและสั่งให้มีการกักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน” นพ.เฉวตสรรกล่าว

 

นพ.เฉวตสรรกล่าวอีกว่า สำหรับความก้าวหน้าในการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากเป้าหมายเข็มแรกอยู่ที่ 92,600 โดส ตอนนี้ฉีดไปแล้ว 58,024 โดส ถือว่ามีความก้าวหน้าโดยลำดับ ทั้งนี้ ในวันแรกที่มีการฉีดวัคซีนของซิโนแวควันที่ 28 ก.พ. ดังนั้น เข็มที่ 2 จึงนัดหมายหลังจากนั้น 21 วัน แต่อาจจะมีการเลื่อนนัดหมายบ้าง

นพ.เฉวตสรรกล่าวว่า สำหรับการฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าที่เริ่มฉีดเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ที่ทำเนียบรัฐบาล ส่วนอื่นๆ เพิ่งมีการกระจายไปยังจังหวัดต่างๆ ยังไม่ได้มีรายงานการฉีดวัคซีนของแอสตร้าฯ รายงานเพิ่มเติมเข้ามาแต่อย่างใด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง