รีเซต

คุณแม่ยอดนักสู้แห่งแดนมังกร จากเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว สู่คลิปอาหารสร้างรอยยิ้มใน Douyin

คุณแม่ยอดนักสู้แห่งแดนมังกร จากเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว สู่คลิปอาหารสร้างรอยยิ้มใน Douyin
TNN ช่อง16
16 พฤศจิกายน 2564 ( 10:50 )
66

เหยื่อความรุนแรงในครอบครัว


สวัสดีค่ะทุกคน ฉันชื่อ ‘ลู่ มาม่า’ วันนี้ฉันกำลังจะทำ [ชื่ออาหารให้เด็ก  ทาน” 


นี่เป็นวิธีการที่ “ลู่ อ้ายเหม่ย” มักพูดเปิดในวิดีโอทำอาหาร บนแอปพลิเคชัน Douyin (อ่านว่า โต่วอินหรือ TikTok เวอร์ชันจีน


เด็ก  ในที่นี้ ลู่ หมายถึงลูก  ของเธอ คนโตชื่อ จู เสี่ยวเฉียง วัย 39 ปี และลูกชายคนที่สอง จู เสี่ยวเมิ่ง อายุ 29 ปี ซึ่งทั้งคู่ป่วยเป็นโรคทางระบบประสาทที่รู้จักกันในชื่อ “โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง” หรือ “ALS” ทำให้ทั้งคู่เป็นอัมพาตตั้งแต่วัยรุ่น


ลู่ วัย 59 ปี มีชื่อเล่นว่า “มาม่า” ที่เหล่าผู้ติดตามบนโลกออนไลน์เป็นคนตั้งให้ ซึ่งเป็นคำที่คนจีนใช้เรียกเฉพาะผู้หญิงที่พิเศษ และเป็นที่เคารพ นอกเหนือจากแม่ของตัวเอง


สามีของเธอหูหนวก และเขายังชอบทำร้ายร่างกายคนในบ้าน ลู่ จึงเป็นผู้ดูแลลูก  เพียงคนเดียวตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา และเคยหาเลี้ยงชีพด้วยการนั่งขอทานตามท้องถนนด้วย


คลิปการทำอาหารที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม


ลู่ อ้ายเหม่ย” เป็นอดีตชาวนาจากมณฑลเหอหนาน ที่ไม่เคยเข้าเรียนในโรงเรียน ก่อนที่จะกลายเป็นอินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหาร ที่มีผู้ติดตามบน Douyin มากกว่า 230,000 คน 


วิดีโอการทำอาหารของลู่ มีมากกว่า 500 คลิป ได้รับการแชร์บนแพลตฟอร์มตั้งแต่เธอเริ่มเล่นเมื่อสองปีที่แล้ว และมีผู้กดถูกใจคลิปทั้งหมดกว่า 750,000 ไลก์


ลู่ กล่าวว่า เธอชอบนำความสุขมาสู่ผู้คน ด้วยการแบ่งปันวิดีโอเกี่ยวกับอาหาร แทนที่จะแสดงความทุกข์ยากให้ผู้อื่นเห็น


ครอบครัวที่ยากลำบากอย่างฉัน ไม่อาจใช้เวลาทั้งวันนั่งร้องไห้หรือจมอยู่กับความทุกข์ เพราะเราควรมีความสุข” ลู่ กล่าว


และนั่นคือภาพลักษณ์ที่เธอปรากฏตัวต่อหน้ากล้อง เธอมักจะทักทายผู้ชมด้วยเสียงหัวเราะดัง  และเลี้ยงลูกชายของเธออย่างสนุกสนาน เมื่อเสร็จสิ้นการทำอาหาร


ลูกชายผู้ช่วยในการทำคลิป


ลูกชายคนโต “เสี่ยวเฉียง” แขนขาเป็นอัมพาต และต้องถอดหลอดลมคอออก หลังจากติดเชื้อที่ปอดอย่างรุนแรงเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาทำหน้าที่เป็นผู้กำกับ ส่วนเสี่ยวเมิ่ง ลูกชายคนกลาง ซึ่งสูญเสียการควบคุมทั้งแขนและขา ยกเว้นนิ้วสองนิ้ว มีหน้าที่ตัดต่อและดูแลจัดการแอคเคาน์ Douyin


ลู่ กล่าวว่า เสี่ยวเมิ่ง มักจะใช้เวลาตลอดทั้งบ่าย ในการตัดต่อวิดีโอความยาว 1 นาที และตัวเธอเองก็ยังคงงุ่มง่าม หลังจากใช้งาน “เทคโนโลยีขั้นสูง” เป็นเวลาสองปี เธอยังบอกว่า อาจใช้เวลาถึงสองวันในการถ่ายวิดีโอสั้น  เพียงคลิปเดียว


ฉันไม่รู้วิธีปรับโฟกัสกล้องด้วยซ้ำ บางครั้งก็ลืมกดอัดคลิป บางครั้งก็เพิ่งรู้ว่าโทรศัพท์ไม่ได้เปิดเครื่อง หลังจากที่ทำอาหารเสร็จแล้ว” ลู่ หัวเราะ


สานฝันสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว


เธอเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา เกี่ยวกับความทะเยอทะยานของเธอในอีคอมเมิร์ซ ไลฟ์สตรีมมิงที่เฟื่องฟูของจีน “ฉันแค่อยากเป็นที่สนใจมากขึ้น เพื่อที่จะสร้างรายได้จากการเป็นพนักงานขายบนไลฟ์สตรีม และจะได้ดูแลเด็ก  ได้ดีขึ้น” เธอกล่าว


นอกจากเสี่ยวเฉียงและเสี่ยวเมิ่งแล้ว เธอยังมีลูกชายอีกคนหนึ่งที่ต้องเลี้ยงดู เขาเป็นเด็กสุขภาพดีอายุ 13 ปี


ลู่เล่าว่า สามีของเธอกลายเป็นคนใช้ความรุนแรง หลังจากสูญเสียการได้ยินอย่างกะทันหันเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และเมื่ออดทนกับการใช้ความรุนแรงของสามีไม่ไหวแล้ว ลู่ จึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านเกิดที่ จู้หม่าเตี้ยน กับลูกทั้งสามคนในปี 2012 และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนาน


ครอบครัว” ที่พึ่งของกันและกัน


ลู่ อาศัยเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและการนั่งขอทานตามท้องถนน ลู่ จะพาเด็ก  ไปกับเธอด้วยมอเตอร์ไซค์พ่วงเทรลเลอร์ และใช้เวลาหลายสัปดาห์บนถนน เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดทางใต้ เช่น ไหหลำ และกวางตุ้ง เธอเชื่อว่า เมื่อฤดูหนาวมาถึง อากาศอบอุ่นของที่นั่นจะดีสำหรับผู้ป่วย ALS


แต่เธอก็ต้องหยุดกิจกรรมเหล่านี้ในปี 2017 เมื่ออาการของเสี่ยวเฉียงแย่ลง เนื่องจากการติดเชื้อที่ปอดอย่างรุนแรง ทำให้ต้องมีคนช่วยกำจัดเมือกในช่องคอให้เขาเป็นประจำ เพื่อให้หายใจได้สะดวกและให้การบำบัดด้วยออกซิเจน


แม่คืออากาศและน้ำสำหรับเรา...เธอเป็นเหมือนดวงอาทิตย์ที่ให้แสงสว่างและความอบอุ่นแก่เรา” เสี่ยวเมิ่ง กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น


เราเป็นเหมือนเสาไม้ที่ค้ำจุนกันและกัน มันอาจแตกสลายหากคนใดคนหนึ่งล้มลง” ลู่ กล่าว

—————

แปล-เรียบเรียงพัชรี จันทร์แรม

ภาพ: Douyin

ข่าวที่เกี่ยวข้อง