ส่องงบ Q1/65 ในหุ้น TIDLOR-ASK-MTC-SAWAD

ฝ่ายวิจัยเมย์แบงก์ฯ คาดกำไรไตรมาส 1/65 ของ ASK อยู่ที่ 356 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน จากการเติบโตของรายได้ที่แข็งแกร่ง สินเชื่อน่าจะเติบโต 26% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และโต 6% จากไตรมาสก่อน เป็น 5.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจาก ASK ปล่อยสินเชื่อใหม่ 9.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% ซึ่งสินเชื่อใหม่แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.4 พันล้านบาท ในเดือน มี.ค. 2565 ส่งผลให้ NII เติบโต 42% ขณะที่ Non-NII คาดเพิ่มขึ้น 32% นำโดยรายได้จากนายหน้าประกันภัย ต้นทุนต่อรายได้มีแนวโน้มลดลง 

ส่วน TIDLOR คาดกำไรไตรมาส 1/65 อยู่ที่ 905 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันปีก่อน จากการเติบโตของสินเชื่อและค่าธรรมเนียมที่แข็งแกร่ง NIM มีแนวโน้มลดลง เนื่องจากเสนออัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อรถยนต์และรถบรรทุกที่ต่ำกว่า คาดรายได้ประกันจะเติบโตเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ลดลงจากไตรมาสก่อน ที่ฐานสูง

ขณะที่กำไรของ MTC และ SAWAD ในไตรมาส 1/65 มีแนวโน้มลดลง 10-13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็น 1.2 พันล้านบาท และ 1.19 พันล้านบาทตามลำดับ จากการเติบโตของรายได้ที่อ่อนแอและต้นทุนสินเชื่อที่สูงขึ้น คาดว่าสินเชื่อโต 32% สำหรับ MTC แต่กำไรของบริษัทอาจจะได้รับผลกระทบจาก NIM และรายได้ค่าธรรมเนียมที่อ่อนแอ 

ในส่วนของ SAWAD คาดสินเชื่อจะฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน  จากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ แต่การกลับรายการตั้งสำรองที่ลดลง จะกดดันการเติบโตของกำไรในไตรมาส 1/65 คาดว่าอัตราส่วน NPL จะเพิ่มขึ้นในกลุ่มสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยทั้งหมด เนื่องจากสินเชื่อที่เข้าโครงการบรรเทาหนี้บางส่วนจะเปลี่ยนเป็น NPL ในไตรมาส 1/65

กลยุทธ์ลงทุน หุ้น ASK แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 55 บาทต่อหุ้น, หุ้น TIDLOR แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 44 บาทต่อหุ้น, หุ้น MTC แนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 63 บาทต่อหุ้น และหุ้น SAWAD แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 72 บาทต่อหุ้น