ลุงจรูญฟาดกลับ! ฟ้องครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น-เจ๊พัช เบิกความเท็จ-อายัดเงินหวย30ล้าน
ลุงจรูญฟาดกลับ! ฟ้องครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น-เจ๊พัช เบิกความเท็จ-อายัดเงินหวย30ล้าน ส่วนอีกคดีฟ้องครูปรีชา และทนายวรยุทธ ข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ
เมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ศาลอุทธรณ์ภาค 7 นัดอ่านคำพิพากษา คดีนายปรีชา ใคร่ครวญ หรือครูปรีชา เป็นโจทก์ยื่นฟ้องร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือลุงจรูญ ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์รับของโจร โดยคดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องลุงจรูญไปก่อนหน้านี้แล้วนั้น
ศาลเริ่มอ่านคำพิพากษา 83 หน้า จนเสร็จสิ้นในเวลา 10.45 น. ก่อนจะมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้องลุงจรูญ ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ รับของโจร โดยศาลอุทธรณ์ภาค 7 ให้เหตุผลของการพิจารณายกฟ้องว่า มาจากการที่ศาลได้พิจารณาพยานหลักฐานต่างๆ แล้ว เชื่อได้ว่าครูปรีชาไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ ซึ่งคือสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ เมื่อครูปรีชาไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ จึงไม่ได้เป็นผู้เสียหาย เมื่อไม่ได้เป็นผู้เสียหาย จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับลุงจรูญ ดังนั้นศาลจึงมีคำพิพากษายกฟ้อง
หลังเสร็จสิ้นการฟังคำพิพากษา ครูปรีชา เปิดใจว่า ตนให้ความเคารพในคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 แม้จะมีในบางประเด็นที่ไม่เห็นด้วยก็ตาม หลังจากนี้จะไปปรึกษากับทีมทนายความ เพื่อดำเนินการยื่นฎีกาต่อศาลอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามกระบวนการทางกฎหมายที่สามารถทำได้ ซึ่งการยื่นฎีกาต่อศาล เบื้องต้นจะต้องยื่นภายใน 30 วัน จากนั้นจะอยู่ที่ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะรับฎีกาหรือไม่ ส่วนในประเด็นที่ว่าฝ่ายของลุงจรูญจะยื่นฟ้องดำเนินคดีกับครูปรีชานั้น ทางครูปรีชายืนยันว่าไม่รู้สึกหนักใจ เพราะในตอนนี้คดียังไม่ได้สิ้นสุด ตนยังไม่ได้อยู่ในสถานะของการเป็นจำเลย และการที่จะถูกฝ่ายของลุงจรูญฟ้อง คงจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบวิชาชีพครู เพราะคดียังไม่สิ้นสุด
ด้านลุงจรูญ และภรรยา พร้อมด้วยนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความ ได้เดินทางลงมาจากห้องพิจารณาคดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยนายษิทรา เปิดเผยว่า ศาลมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้องลุงจรูญ โดยศาลให้ความสำคัญกับหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ทั้งคลิปเสียงการสนทนา สัญญาณโทรศัพท์ของครูปรีชา ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ใช้พิสูจน์ว่า คำให้การของครูปรีชาที่อ้างว่าเดินทางไปซื้อลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้ในวันที่ 31 ต.ค.2560 นั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากสัญญาณโทรศัพท์ระบุว่าในวันดังกล่าว ครูปรีชาออกจากโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ที่ครูปรีชาทำงานอยู่ในเวลา 16.26 น. และไปรับลูกของครูที่โรงเรียนอีกแห่งในต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง ในเวลา 16.56 น. แต่ในคำให้การของครูปรีชาระบุว่าในวันดังกล่าวครูปรีชาได้แวะทำธุระที่ตลาดเรดซิตี้และแวะซื้อลอตเตอรี่กับเจ๊บ้าบิ่น โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเดินทางไปรับลูก
“จากสัญญาณโทรศัพท์ของครูปรีชาระบุชัดเจนว่าในเวลา 16.46 น. ครูปรีชายังขับรถจอดติดสัญญาณไฟแดงอยู่บริเวณสี่แยกอู่ทอง ใกล้เคียงกับตลาดเรดซิตี้ จึงเป็นไปไม่ได้ที่ครูปรีชาจะใช้เวลา 10 นาทีลงไปซื้อลอตเตอรี่ที่ตลาดเรดซิตี้และเดินทางไปรับลูกที่โรงเรียนในเวลา 16.56 น.ตามที่กล่าวอ้าง อีกทั้งช่วงเวลาดังกล่าวยังมีคลิปเสียงการสนทนาของครูปรีชาที่ใช้โทรศัพท์อยู่ตลอดช่วงเวลา จึงเชื่อได้ว่าวันดังกล่าวครูปรีชาไม่ได้ซื้อลอตเตอรี่จากเจ๊บ้าบิ่นที่ตลาดเรดซิตี้จริง ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ ทำให้ศาล พิจารณายกฟ้องลุงจรูญ ตามศาลชั้นต้นในที่สุด”
นายษิทรา เปิดเผยว่า หลังจากศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นยกฟ้องลุงจรูญเรียบร้อยแล้วนั้น จากนี้คดีที่ทางฝ่ายของลุงจรูญเป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชาและพวก จะได้เริ่มกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณา เบื้องต้น 2 คดี คือคดีที่ลุงจรูญเป็นโจทก์ยื่นฟ้องครูปรีชา และทนายวรยุทธ ในข้อหาร่วมกันฟ้องเท็จ เพื่อกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา และอีกคดีคือคดีที่ยื่นฟ้องครูปรีชา เจ๊บ้าบิ่น และเจ๊พัช ในความผิดฐานเบิกความเท็จ เมื่อตอนที่ครูปรีชายื่นขออายัดเงินของคุณลุงจรูญต่อศาล ซึ่งทั้ง 2 คดีนี้ จะเริ่มกลับเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามกฎหมาย ส่วนในเรื่องของพยานที่ขึ้นให้การทางฝั่งครูปรีชาในคดีอาญานั้น ทางฝ่ายของตนยังไม่ได้ยื่นฟ้อง แต่ขึ้นอยู่กับคุณลุงจรูญว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับพยานที่ให้การเท็จรายใดบ้าง
ลุงจรูญ กล่าวว่า ในวันนี้ศาลมีคำพิพากษายกฟ้อง คืนความเป็นธรรมให้กับตนเรียบร้อยแล้ว จากนี้ไปตนจะได้ทวงความเป็นธรรมให้กับตัวเอง โดยฟ้องร้องดำเนินคดี กับผู้ที่พยายามใส่ร้ายดำเนินคดีกับตนทั้งหมดทุกคน