รีเซต

ปราจีนฯ4รายแล้ว! เจออีก 1 พนง.ร้านอาหารกลับจากอังกฤษ เจ้าของร้านติดโควิดด้วยรักษาตัวอยู่กทม.

ปราจีนฯ4รายแล้ว! เจออีก 1 พนง.ร้านอาหารกลับจากอังกฤษ เจ้าของร้านติดโควิดด้วยรักษาตัวอยู่กทม.
ข่าวสด
3 เมษายน 2563 ( 18:12 )
111
ปราจีนฯ4รายแล้ว! เจออีก 1 พนง.ร้านอาหารกลับจากอังกฤษ เจ้าของร้านติดโควิดด้วยรักษาตัวอยู่กทม.

 

ปราจีนฯ4รายแล้ว! เจออีก 1 พนง.ร้านอาหารกลับจากอังกฤษ

วันที่ 3 เม.ย. ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี นายพิบูลย หัตถกิจโกศล ผวจ.ปราจีนบุรี พร้อมด้วย นพ.โชคชัย สาครพานิช นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี และ พญ.โศรยา ธรรมรักษ์ ผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมแถลงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ( COVID-19)

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

นายพิบูลย์ กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปราจีนบุรี โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ขอรายงานข่าวกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดปราจีนบุรี ประจำวันที่ 3 เมษายน 2563 เวลา 15.30 น. ข้อมูลส่งตรวจหาเชื้อ สะสม 62 ราย ไม่พบเชื้อ 56 ราย รอผล 2 ราย ขณะนี้พบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 4 ราย

วันนี้จ.ปราจีนบุรี พบผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้น จํานวน 1 ราย เพศหญิง อายุ 47 ปี รวมมีผู้ป่วยยืนยันสะสมใน พื้นที่ขณะนี้ 4 รายผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ที่ทํางานในร้านอาหาร ที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศที่มีการระบาดต่อเนื่อง ตามที่กรมควบคุม โรคประกาศ และมีประวัติใกล้ชิดกับผู้ป่วยยืนยันรายก่อนหน้านี้

จากการสอบสวนโรค ผู้ป่วยให้ข้อมูลว่า ทํางานในร้านอาหารที่ประเทศอังกฤษ เดินทางกลับถึงประเทศไทย เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG911 พร้อมด้วยสามี และลูกอีก 2 คน จากนั้นเหมารถตู้เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ กลับภูมิลําเนาที่อ.บ้านสร้าง โดยไม่ได้เดินทางไปยังสถานที่อื่น ด้วยทราบว่าตัวเองเป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักกันตัวอย่างเคร่งครัด

เช้าวันที่ 31 มี.ค. เริ่มมีอาการป่วย และได้โทรประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ นํารถมารับไปตรวจที่รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ต่อมาผลตรวจพบ ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจากการสอบสวนโรค พบว่า เจ้าของร้านอาหารคนไทยที่ผู้ป่วยทํางานด้วย เป็นผู้ป่วยยืนยันที่รับการรักษาอยู่กรุงเทพฯ

นายพิบูลย์ กล่าวว่าต่อ มาตรการเร่งด่วนที่คณะกรรมการโรคติดต่อจ.ปราจีนบุรี ได้ประสานการดําเนินงาน ได้แก่ ดําเนินการเฝ้าระวัง ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ประกอบด้วย สามี ลูกชาย และลูกสาว รวม 3 คน เฝ้าสังเกตอาการโดยกักกันตัวที่บ้าน (Home Quarantine) ติดตามวัดอุณหภูมิและอาการเจ็บป่วยระบบทางเดิน หายใจทุกวัน รวม 14 วัน

สําหรับกลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ ประกอบด้วย ผู้เดินทางเที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วย ได้แก่ ที่นั่งสองแถว หน้า-สองแถวหลัง และคนขับรถตู้เหมา ที่รับผู้ป่วยจากสนามบินมาบ้านพัก กรมควบคุมโรค ได้ดําเนินการ ติดตามให้เข้ารับการเก็บตัวอย่างส่งตรวจ ณ สถานพยาบาลในพื้นที่ และแจ้งให้กักตัวเองเพื่อเฝ้าระวังอาการ ออกประกาศมาตรการและมีคําสั่งให้ปิดสถานที่เสี่ยงเป็นการชั่วคราว 4 ฉบับ เพื่อให้ ประชาชนเกิดความตระหนักในการดูแลตนเอง และเพิ่มระยะห่างระหว่างกัน (Social Distanding) คณะกรรมการโรคติดต่อจ.ปราจีนบุรี ขอให้ประชาชนชาวปราจีนบุรี ร่วมปฏิบัติตนในการป้องกันโรคตามคําแนะนําของกระทรวงสาธารณสุข ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนฉัน หมั่นล้างมือ งดเที่ยว สังสรรค์ ห่างกัน 2 เมตร

ขณะที่นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เมื่อได้รับการแจ้งโรคจากทางโรงพยาบาล ได้เตรียมรองรับบุคคลทั้ง 4 จากประเทศอังกฤษเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ได้มีการกักตัวล่วงหน้าและกลับมาถึงเมืองไทยวัดไม่มีไข้ เมื่อมีอาการมีไข้ ระบบทางเดินหายใจ จึงประสานร.พ.บ้านสร้าง นำส่งต่อรพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร

ด้าน พญ.โศรยา กล่าวว่า ขอแจ้งข่าวดีว่าผู้ป่วยโควิด -19 ที่นอนรักษาตัวในโรงพยาบาลของเรา 3 คนแรกนั้น ตอนนี้อาการดีขึ้นเป็นลําดับ พร้อมที่จะกลับบ้านและกักตัวที่บ้านต่อได้ และในวันนี้จ.ปราจีนบุรีเรามีผู้ป่วยโควิด -19 เพิ่มขึ้นอีก 1 ราย รวมเป็น 4 ราย)เป็นคนไทยที่กลับจากประเทศอังกฤษ ตอนนี้พักรักษาตัวอยู่ที่ร.พ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ยังมีอาการไอและเหนื่อยเล็กน้อย ส่วนคนใกล้ชิด ซึ่งมาจากประเทศอังกฤษด้วยกัน ก็กักกันตัวเองดูอาการอยู่ที่บ้าน

ส่วนเรื่องการ ประกาศเคอร์ฟิว ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่ร.พ.ของเราในเรื่องการขึ้นเวร ดังนั้นจึงขอให้เจ้าหน้าที่ทุกท่านที่มาทํางานในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ให้ยึดหลัก 3 พก คือ พกบัตรประจําตัวประชาชน พกบัตรประจําตัวข้าราชการ หรือบัตรเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล พกตารางเวร เพื่อยื่นต่อเจ้าหน้าที่ที่ขอตรวจ ส่วนผู้ที่มีญาติมารับส่งขอให้ญาติพกสําเนาบัตรประจําตัว เจ้าหน้าที่รพ.ของท่านและสําเนาตารางเวรของท่านไว้ เพื่อยืนยันกับทางเจ้าหน้าที่ ขอเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติตัว universal precaution อย่างเคร่งครัดต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง