รีเซต

บิ๊กป้อม นำทีมติดตามโครงการพัฒนาหนองเล็งทราย พะเยา หวังเพิ่มปริมาณน้ำได้กว่า 20 ล้านลบ.ม.

บิ๊กป้อม นำทีมติดตามโครงการพัฒนาหนองเล็งทราย พะเยา หวังเพิ่มปริมาณน้ำได้กว่า 20 ล้านลบ.ม.
มติชน
7 ธันวาคม 2563 ( 13:42 )
141
บิ๊กป้อม นำทีมติดตามโครงการพัฒนาหนองเล็งทราย พะเยา หวังเพิ่มปริมาณน้ำได้กว่า 20 ล้านลบ.ม.

เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ติดตามการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำจังหวัดพะเยา โดยมี ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน ดร.สุดชาย พรหมมลมาศ ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 1 รักษาราชการแทน ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 2 นายปาโมกข์ ปิงเมือง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพะเยา และผู้เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ ณ โครงการพัฒนาหนองเล็งทราย อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา

 

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า หนองเล็งทราย เป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่ นสล.(หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง) เนื้อที่ประมาณ 5,563 ไร่ มีพื้นที่รับน้ำ 200 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันมีความจุเก็บกักที่ 5 ล้านลูกบาศก์เมตร(ล้าน ลบ.ม.) ตั้งอยู่ใจกลางของอำเภอแม่ใจ มีพื้นที่ครอบคลุมมากถึง 5 ตำบล จากทั้งหมด 6 ตำบลของอำเภอแม่ใจ ปัจจุบันสภาพของหนองเล็งทราย มีสภาพตื้นเขิน สาเหตุเกิดจากตะกอนดินที่ไหลมาจากลำห้วยต่างๆ ที่ไหลลงสู่หนองเล็งทราย ทำให้หนองเล็งทรายมีความตื้นเขินไม่สามารถเก็บกักน้ำได้อย่างเต็มศักยภาพในฤดูฝน ในส่วนของการจัดการน้ำและการดูแลบำรุงรักษา ชาวอำเภอแม่ใจจะใช้ประโยชน์จากหนองเล็งทราย เป็นแหล่งน้ำดิบในการผลิตน้ำประปาเพื่ออุปโภคบริโภค ปีละประมาณ 720,000 ลบ.ม. หรือเฉลี่ยเดือนละประมาณ 60,000 ลบ.ม. และยังมีพื้นที่การเกษตรรอบหนองเล็งทรายอีกประมาณ 10,000 ไร่ ที่ใช้น้ำจากหนองน้ำแห่งนี้

 

สำหรับแนวทางการพัฒนาหนองเล็งทราย นั้น โครงการชลประทานพะเยา ได้ดำเนินการตามแนวทางในการพัฒนาและปรับปรุงพื้นที่หนองเล็งทราย โดยการเพิ่มประสิทธิภาพการกักเก็บน้ำ(ฝาย คสล.เดิม) ด้วยการก่อสร้างฝายพับได้ เพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มมากขึ้น มีการปรับปรุงและฟื้นฟูร่องน้ำเดิม ให้มีขนาดกว้าง 100 เมตร ยาว 11 กิโลเมตร รวมทั้งฟื้นฟูแก้มลิง พร้อมอาคารประกอบพื้นที่ประมาณ 200 ไร่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินงาน หากดำเนินการแล้วเสร็จ จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำในหนองเล็งทรายได้กว่า 20 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ประมาณ 10,000 ไร่ อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนได้อีกทางหนี่งด้วย

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง