พาณิชย์คาดเงินเฟ้อปีนี้ติดลบในรอบ 4 ปี

นายนันทพงษ์ จิระเลิศพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนพฤศจิกายน 2568 เท่ากับ 100.15 เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2567 ซึ่งเท่ากับ 100.64 ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงร้อยละ 0.49 (YoY) เป็นการลดลงในอัตราที่ชะลอตัวจากเดือนตุลาคม 2568 ที่ลดลงร้อยละ 0.76
สาเหตุสำคัญที่ทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังคงลดลงมาจากราคาสินค้าในกลุ่มพลังงาน ได้แก่ ค่ากระแสไฟฟ้าครัวเรือน และน้ำมันเชื้อเพลิง ปรับลดลงตามสถานการณ์พลังงานในตลาดโลก และมาตรการลดภาระค่าครองชีพของภาครัฐ
ขณะที่สินค้าในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากลดลงต่อเนื่องมา 3 เดือน จากการสูงขึ้นของราคาผักสด อาหารสำเร็จรูป และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก
ทั้งนี้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ข้อมูลล่าสุดเดือนตุลาคม 2568 พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของไทยลดลงร้อยละ 0.76 (YoY) โดยอยู่ระดับต่ำอันดับ 3 จาก 132 เขตเศรษฐกิจที่ประกาศตัวเลข และต่ำสุดในกลุ่มประเทศอาเซียน 9 ประเทศที่ประกาศตัวเลข (บรูไน ติมอร์-เลสเต สิงคโปร์ มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม สปป.ลาว)
สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป เฉลี่ย 11 เดือน (มกราคม – พฤศจิกายน) ของปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 ลดลงร้อยละ 0.12 และในเดือนธันวาคมคาดว่าเงินเฟ้อจะติดลบร้อยละ 0.48 ถึงติดลบร้อยละ 1.08 ทำให้เงินเฟ้อทั้งปี 2568 เฉลี่ยอยู่ที่ติดลบร้อย 0.15 ถึง ติดลบร้อยละ 0.20 โดยเป็นการติดลบในรอบ 4 ปี
สำหรับอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2569 กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ว่าจะอยู่ระหว่างร้อยละ 0.0 ถึงร้อยละ 1.0 หรือมีค่ากลางอยู่ที่ร้อยละ 0.5) ภายใต้สมมติฐานเศรษฐกิจขยายตัวร้อยละ 1.7 ราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 60-70 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.00-33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ โฆษกกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า ส่งผลกระทบต่อเงินเฟ้อไม่มาก เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 0.01-0.05 ขณะที่โครงการคนละครึ่งพลัส กระตุ้นความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2568 หากรัฐบาลยังมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆ และมาตรการลดดอกเบี้ยครัวเรือนต่าง ๆ ในระยะยาวมากขึ้น ทั้งหมดจะเป็นส่วนช่วยครัวเรือนด้านอุปสงค์ และจะช่วยให้เงินเฟ้อกลับมาขยายตัว